4 แนวทาง เสริมสร้างพัฒนาการลูกน้อยด้วยดนตรีสำหรับเด็ก

  •  31 ต.ค. 67

ถึงแม้ความรู้ด้านวิชาการจะสำคัญต่ออนาคตของลูกน้อย แต่คุณพ่อคุณแม่รู้หรือไม่ว่า การพัฒนาทักษะด้านอื่นๆ ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะไม่เพียงช่วยให้เด็กๆ ค้นพบสิ่งที่ชอบ แต่ยังช่วยส่งเสริมพัฒนาการได้ด้วย ดนตรีสำหรับเด็กเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับสำคัญที่ทำให้ลูกมีพัฒนาการทั้งด้านอารมณ์และร่างกาย แถมยังต่อยอดไปสู่พัฒนาการด้านสังคมและสติปัญญาได้เช่นกัน แต่จะมีวิธีการอย่างไร ต้องทำแบบไหนถึงจะใช้ดนตรีและเพลงเด็กส่งเสริมพัฒนาการลูกได้อย่างถูกวิธี ตามไปดูกันเลย
 

ประโยชน์ของดนตรีเพื่อพัฒนาการที่ดีของลูกน้อย

ดนตรีและเพลงสำหรับเด็กมีประโยชน์มากมาย ไม่เพียงทำให้ผ่อนคลายเท่านั้น แต่ยังช่วยพัฒนาลูกน้อยด้านต่างๆ ดังนี้

พัฒนาการด้านร่างกาย

  • ดนตรีและเสียงเพลงช่วยฝึกกล้ามเนื้อทั้งมัดใหญ่และมัดเล็ก การเล่นดนตรีทำให้เด็กได้พัฒนากล้ามเนื้อบริเวณนิ้วมือและข้อมือให้แข็งแรง หยิบจับสิ่งของและเขียนหนังสือได้อย่างมั่นคง ในขณะเดียวกัน การทำกิจกรรมประกอบเสียงเพลงเด็กสนุกๆ เช่น เต้นรำ หรือเคลื่อนไหวท่าทางยังช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับร่างกายด้วย
  • เสียงดนตรีช่วยให้เด็กได้ฝึกประสาทสัมผัส โดยเฉพาะการฟัง การมอง และการสัมผัส ไม่ว่าจะผ่านการฟังเพลงและแยกแยะเสียงต่างๆ ไปจนถึงการฝึกเล่นดนตรีแบบง่ายๆ ที่ช่วยให้ลูกได้ฝึกใช้สายตาและมือในการเล่นเครื่องดนตรีเหล่านั้น
  • นอกจากนี้ ดนตรียังช่วยบำบัดอาการป่วยและบรรเทาความเจ็บปวดยามที่ลูกไม่สบาย

พัฒนาการด้านอารมณ์

  • การฟังเพลงและการเล่นดนตรีเป็นกิจกรรมช่วยฝึกสมาธิ ทำให้จิตใจสงบ คุณพ่อคุณแม่คนไหนที่กังวลว่าลูกจะสมาธิสั้นจากการที่เกิดมาในยุคของสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ต สามารถพาลูกเข้าสู่โลกของดนตรี เพื่อฝึกสมาธิให้จดจ่ออยู่กับตัวโน้ตและจังหวะ ทั้งยังช่วยลดเวลาที่ลูกจะใช้บนหน้าจอได้ด้วย
  • การฟังเพลงและการเล่นดนตรีช่วยผ่อนคลายอารมณ์ จิตใจผ่องใส ทั้งยังคลายเครียด การให้ลูกฟังเพลงตั้งแต่ยังเด็กๆ จะทำให้ลูกซึมซับนิสัยการนำเสียงเพลงมาคลายเครียดเมื่อเริ่มโตขึ้นและพบเจออุปสรรค เช่น การสอบ ความกดดันจากการแข่งกีฬา เป็นต้น

พัฒนาการด้านสังคม

  • การเล่นดนตรีช่วยให้เด็กๆ ได้ฝึกวินัยและความอดทนผ่านการฝึกซ้อมเป็นประจำ ทั้งยังช่วยให้เด็กรู้จักยอมรับในความผิดพลาดและฝึกแก้ไขผ่านกระบวนการฝึกซ้อมดนตรี
  • ดนตรีช่วยให้ลูกน้อยเกิดความภาคภูมิใจในตนเองเมื่อสามารถร้อง เล่น หรือเต้นเพลงที่มีระดับความยากขึ้นไปเรื่อยๆ ได้ เมื่อรู้สึกภูมิใจก็จะกลายเป็นคนเห็นคุณค่าในตัวเอง
  • ดนตรีเป็นสะพานเชื่อมโยงให้เด็กได้ฝึกการเข้าสังคมกับเพื่อนใหม่และคุณครู
  • การนำดนตรีสำหรับเด็กมาใช้ประกอบกิจกรรมต่างๆ ช่วยฝึกความกล้าแสดงออก 

พัฒนาการด้านสติปัญญา

  • ดนตรีส่งผลต่อการเรียนวิชาต่างๆ เช่น ภาษา คณิตศาสตร์​ วิทยาศาสตร์ มีงานวิจัยหลายชิ้นตั้งข้อสังเกตว่าเด็กที่เล่นดนตรีมักจะมีผลการเรียนในวิชาดังกล่าวดีกว่าคนที่ไม่ได้เล่น และในขณะเดียวกันก็มีเด็กที่ไม่ถนัดวิชาดังกล่าว แต่หลังจากได้เล่นดนตรีแล้วกลับได้พบพรสวรรค์และความชอบที่อาจพัฒนาไปเป็นอาชีพหรือความเชี่ยวชาญได้ในอนาคต 
  • การเรียนภาษาผ่านบทเพลงช่วยให้เด็กไม่เบื่อ ทั้งยังเริ่มได้ตั้งแต่อายุยังน้อย โดยที่เด็กๆ ยังไม่มีความกังวลจากการสอนภาษาในโรงเรียนมากนัก
  • นอกจากนั้นแล้ว ยังมีเพลงเด็กพัฒนาสมองและเพลงคลาสสิกที่ได้รับการวิจัยมาแล้วว่ามีจังหวะและความถี่ที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง เช่น เพลงของโมสาร์ท 
  • การเรียนและเล่นดนตรีช่วยฝึกความจำและเสริมสร้างไอคิว เช่น การเรียนรู้หลักการอ่านเขียนตัวโน้ต การจำทำนองเพลงที่แตกต่างกัน

4 แนวทาง เสริมสร้างพัฒนาการลูกน้อยด้วยดนตรีสำหรับเด็ก

 

4 วิธีใช้ดนตรีสำหรับเด็ก เริ่มส่งเสริมพัฒนาการตั้งแต่ลูกยังไม่ลืมตา

1. เปิดเพลงให้ลูกฟัง

  • คุณพ่อคุณแม่สามารถใช้เพลงเด็กพัฒนาสมองลูกได้ตั้งแต่ยังอยู่ในครรภ์ หรือเปิดเพลงให้เด็กฟังก่อนนอน โดยเลือกเพลงที่ฟังสบาย ตัวอย่างเช่น เพลงกล่อมเด็ก เพลงคลาสสิกที่มีทำนองผ่อนคลาย เพลงแนว Relaxing Music รวมถึงเพลงทั่วไปที่คุณพ่อคุณแม่ชอบ 
  • หากลูกน้อยโตขึ้นและสามารถสื่อสารได้บ้างแล้ว อาจชวนคุยว่าลูกได้ยินเสียงดนตรีอะไรบ้างที่แตกต่างกัน เป็นการค้นพบเสียงใหม่ๆ ที่เด็กอาจจะยังไม่เคยได้ยินมาก่อน

2. ชวนลูกร้องเพลงไปด้วยกัน

  • คุณพ่อคุณแม่หาเพลงสำหรับเด็กง่ายๆ มาฝึกให้ลูกร้องไปด้วยกัน เพื่อเรียนรู้คำศัพท์ ฝึกพัฒนาการด้านการพูดและด้านความจำผ่านบทเพลงที่มีจังหวะและทำนองหลากหลาย
  • การฟังเพลงและร้องเพลงเป็นอีกหนึ่งวิธีช่วยดึงความสนใจของลูกออกจากการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ช่วยพัฒนาสมาธิและส่งเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัว
  • หากไม่ชอบร้องเพลง สามารถชวนกันปรบมือ เต้น เล่นเกม หรือออกกำลังกายประกอบจังหวะเพลงเพื่อเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์

3. ชวนลูกเรียนดนตรี

อีกหนึ่งวิธีใช้ดนตรีส่งเสริมพัฒนาการให้ลูกน้อยคือการพาลูกไปเรียนดนตรีเพื่อช่วยฝึกสมาธิให้เด็กจดจ่ออยู่กับจังหวะ ช่วยแก้ไขอาการสมาธิสั้น โดยสามารถเลือกได้ทั้งเครื่องดนตรีประเภทเดี่ยวหรือวง

  • การเรียนดนตรีประเภทเดี่ยวและการขับร้องเดี่ยวมีข้อดี คือ ช่วยให้ลูกผ่อนคลายและมีเครื่องดนตรีไว้เป็นเพื่อนยามเหงาหรืออารมณ์ไม่ดี รวมถึงช่วยให้เด็กค้นพบสไตล์ที่ชอบและกล้าแสดงออก
  • การรวมวงกับเพื่อนๆ หรือกับคนในครอบครัวเอง มีข้อดี คือ สนุก ช่วยกระชับความสัมพันธ์ และได้เรียนรู้การอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม

4. ชวนลูกพูดคุยกับถึงความหมายของเพลง

นอกจากจะฟังเพลงและเล่นดนตรีแล้ว คุณพ่อคุณแม่ควรหาเวลาชวนลูกพูดคุยเกี่ยวกับเพลงเพื่อช่วยพัฒนาด้านสติปัญญาและอารมณ์ของลูก

  • การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องความหมายของเพลง ไม่ว่าจะเป็นเพลงเด็กสนุกๆ หรือเพลงที่มีเนื้อหาซับซ้อนขึ้นมาจะช่วยให้เด็กได้ฝึกภาษา ทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ ผ่านการพูดคุยและแปลคำศัพท์ เปิดโอกาสให้เด็กรู้จักคำศัพท์ใหม่ๆ ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน แม้กระทั่งคำในภาษาไทยเองก็ตาม
  • นอกจากนี้ ยังได้ถือโอกาสพูดคุยถึงความหมายแบบง่ายๆ ผ่านเนื้อความที่เพลงต้องการสื่อ ช่วยปูพื้นฐานให้เด็กเป็นคนรู้จักคิดวิเคราะห์ได้ไม่แพ้การฟังนิทานก่อนนอน

4 แนวทาง เสริมสร้างพัฒนาการลูกน้อยด้วยดนตรีสำหรับเด็ก

เลือกดนตรีสำหรับเด็กและเพลงเด็กอย่างไรให้เหมาะสม

ถึงแม้ดนตรีและเสียงเพลงจะมีส่วนในการสร้างความแข็งแรงด้านร่างกายและอารมณ์ให้กับเด็กๆ แต่คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกเพลงที่เหมาะสมกับวัย เพื่อเสริมสร้างพลังบวกให้กับลูกน้อยอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้

  • แนวเพลง: เลือกเพลงที่มีท่วงทำนองฟังสบาย ใช้ดนตรีที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ไม่หนักหรือรุนแรง นิยมเลือกเพลงแนวคลาสสิกหรืออะคูสติก หรือเพลงเด็กสนุกๆ ที่แต่งขึ้นมาให้เด็กหัดพูดหัดร้องตามโดยเฉพาะ
  • เนื้อหาของเพลง: นอกจากเพลงสำหรับเด็กโดยเฉพาะ คุณพ่อคุณแม่ยังสามารถเลือกเพลงตามสมัยนิยมให้ลูกฟังได้ โดยเน้นไปที่เพลงซึ่งมีความหมายในแง่บวก หลีกเลี่ยงเพลงที่มีถ้อยคำหยาบคายหรือเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมกับอายุ

 

นอกจากนี้ สำหรับบ้านไหนที่พาลูกน้อยไปเรียนดนตรี ควรปล่อยให้เด็กๆ ลองผิดลองถูกกับเครื่องดนตรี และให้อิสระในการเลือกเพลงหรือเครื่องดนตรีตามความเหมาะสม เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการผ่านเสียงเพลงได้อย่างเต็มที่

เพราะเสียงเพลงเป็นมากกว่าความผ่อนคลาย มาปลูกฝังดนตรีในหัวใจให้เด็กๆ เพื่อเสริมพัฒนาการด้านต่างๆ ได้ที่โรงเรียนสอนดนตรีสำหรับเด็กใกล้บ้านที่มั่นใจได้ทั้งเรื่องคุณภาพในการเรียนการสอน มาตรฐานคุณครู และสถานที่เรียนเหมาะสมปลอดภัย 

 

สำหรับน้องๆ หนูๆ ที่เน้นขับร้องเป็นหลัก แนะนำ โรงเรียนสอนร้องเพลง "โวคาไลซ์" โดยครูฟ้าใส ชั้น 4 ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค ที่สอนตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงการวิเคราะห์เอกลักษณ์เฉพาะตัว จะเรียนเพื่อความสนุกหรือพัฒนาไปเป็นศิลปินก็ตอบโจทย์ ส่วนใครชอบร้อง เล่น เต้น โชว์ สามารถเลือกเรียนดนตรี การขับร้อง และการเต้นที่สนใจได้กับคุณครูมากประสบการณ์ที่โรงเรียนดนตรี ยามาฮ่า พาราไดซ์ พาร์ค สถาบันที่รวมคอร์สดนตรีหลากหลาย ทั้งแบบเดี่ยวและแบบกลุ่ม ตั้งอยู่ที่ชั้น 3 ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค เช่นกัน

 

4 แนวทาง เสริมสร้างพัฒนาการลูกน้อยด้วยดนตรีสำหรับเด็ก

 


กดรับสิทธิ์ง่าย ๆ ผ่าน LINE Official Account : MBK PLUS ใครยังไม่เป็นสมาชิก MBK PLUS แอดด่วน!! @mbkplus

สุขจุกๆ รวมทุกรูปแบบความสุข รับสุขจุกๆ ได้ง่ายขึ้นแล้วที่ LINE Official Account : MBK PLUS คะแนน MBK POINTS จากแอปพลิเคชัน MBK PLUS จะถูกโอนไปยังระบบ LINE Official Account

MBK POINTS ทุก 1 คะแนน = 1 พอยท์ *

*คะแนนจากระบบเดิมจะถูกนำมาคำนวณเป็น Rate ใหม่ (นำมาหาร 8 เศษที่เหลือจะปรับขึ้น) เช่น เดิมสมาชิกมี 804 คะแนน มูลค่า 100.5 บาท (804x0.125) เพราะ 1 คะแนน = 0.125 บ. เมื่อย้ายมาบนระบบใหม่ คะแนนที่ถูกโอนมาจะเท่ากับ 101 คะแนน  มีมูลค่า 101 บาท เพราะ 1 คะแนนบนระบบใหม่ = 1 บาท 

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ MBK PLUS

4 แนวทาง เสริมสร้างพัฒนาการลูกน้อยด้วยดนตรีสำหรับเด็ก

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ MBK Contact Center โทร. 1285