เทรนด์สุขภาพมาแรง "เวชศาสตร์ชะลอวัย" ย้อนวัย ชะลอเวลา

  •  13 มี.ค. 68

เทรนด์สุขภาพมาแรง "เวชศาสตร์ชะลอวัย" ย้อนวัย ชะลอเวลา 

ศาสตร์แห่งการชะลอวัย หรือ Anti-Aging Medicine มีชื่อเต็มว่า เวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ (Anti-Aging and Regenerative Medicine) เป็นการชะลอความเสื่อม โดยการป้องกันไม่ให้เสื่อมลงอย่างรวดเร็ว และฟื้นฟูสภาพความเสื่อมให้กลับคืนมาในส่วนที่ทำได้ โดยมุ่งหวังการมีคุณภาพชีวิตที่ดีตลอดอายุขัย  

การดูแลตัวเองในแบบเวชศาสตร์ชะลอวัย คือ การดูแลร่างกายจนถึงในระดับเซลล์ให้มีสุขภาพสมบูรณ์สูงสุด (Optimal Health) ทั้งในด้านสารอาหาร กรดอะมิโน วิตามิน เกลือแร่ ฮอร์โมน สารสื่อประสาท สารแอนตี้ออกซิเดนท์ เมื่อเซลล์หรืออวัยวะในร่างกายมีสารเหล่านี้อยู่ในระดับที่สมบูรณ์สูงสุด ร่างกายจะทำงานได้อย่างเต็มที่และการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอกจะเกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์ การป้องกันตัวเองจากความเสื่อม การถูกทำลายจากมลภาวะต่างๆ จะทำได้อย่างเต็มที่ โอกาสที่เซลล์จะเสื่อมสภาพบาดเจ็บหรือสึกหรอก็จะลดน้อยลง 

เวชศาสตร์ชะลอวัย แตกต่างจากการรักษาโรคทั่วไปอย่างไร? 

การแพทย์แผนปัจจุบัน เป็นมุ่งเน้นการรักษาโรคเมื่อเกิดอาการแล้ว เวชศาสตร์ชะลอวัย มุ่งเน้นการป้องกัน และชะลอความเสื่อมของร่างกาย ก่อนที่จะเกิดโรค

ความพิเศษของเวชศาสตร์ชะลอวัย และการฟื้นฟูสุขภาพ เป็นการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมในทุกๆด้านที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ เพื่อให้ร่างกายมีสุขภาพแบบสมบูรณ์สูงสุด โดยใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์สุขภาพค้นหาสาเหตุ ตรวจวินิจฉัย และให้คำแนะนำปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หรือแนวทางการรักษาต่างๆที่อ้างอิงมาจากการศึกษาค้นคว้าวิจัยที่เชื่อถือได้ ซึ่งจัดเป็นเวชศาสตร์ป้องกันอย่างแท้จริง ที่ข้อปฎิบัติต่างๆปรับเปลี่ยนไปตามลักษณะเฉพาะบุคคล อันจะนำมาซึ่งการชะลอความเสื่อม ความชรา และโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ 

 

ศาสตร์ชะลอวัยควรเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่? 

ควรเริ่มดูแลตั้งแต่แรกเกิด หากไม่ได้เริ่มตั้งแต่อายุยังน้อย สามารถเริ่มได้ตั้งแต่วันนี้จะดีกว่าที่ไม่ได้เริ่มต้นดูแลเลย ถึงจะทำให้ชะลอวัยได้นาน 

7 สาเหตุของความชราตามหลักวิทยาศาสตร์ 

  1. อนุมูลอิสระ หากในร่างกายมีสารอนุมูลอิสระ (oxidant) เป็นจำนวนมาก ร่างกายจะเกิดการเผาผลาญ เพื่อทำลายสารพิษ ส่งผลให้มีสารอนุมูลอิสระในร่างกายเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก กระบวนการอักเสบจะเกิดขึ้นตามมา หากใครที่มีสารต้านอนุมูลอิสระไม่เพียงพอ กระบวนการอักเสบจะเกิดขึ้นมาก ทำให้ร่างกายเสื่อมได้อย่างรวดเร็ว 
  2. ภาวะพร่องฮอร์โมน เมื่อคนเราอายุมากขึ้น ร่างการจะสร้างฮอร์โมนต่างๆได้น้อยลงเรื่อยๆ เช่น ผู้หญิงวัยทอง ฮอร์โมนเอสโตรเจนจะลดลง มีโอกาสเป็นโรคหัวใจและกระดูกพรุนมากขึ้น 
  3. การอักเสบเรื้อรัง ทำให้ร่างกายเสื่อมได้ ในคนที่อ้วนมีไขมันสะสมเยอะ เซลล์ไขมันจะปล่อยสารอักเสบออกมาทำให้หลอดเลือดอักเสบ เมื่อหลอดเลือดอักเสบก็จะมีไขมันไปเกาะที่หลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดแข็งตัวและเป็นต้นเหตุของโรคหัวใจ หลอดเลือดและสมองตีบได้ 
  4. ภาวะน้ำตาลสะสม เกิดจากการที่เรารับประทานน้ำตาล หรืออาหารจำพวกแป้งมากๆ พอถูกย่อยกลายเป็นน้ำตาลไปแล้ว น้ำตาลจะไปทำปฏิกิริยากับโปรตีนในร่างกาย ทำให้โปรตีนหรือเซลล์ในร่างกายเสื่อมสภาพ เหมือนเอาเนื้อไปแช่ในน้ำหวานนานๆ เนื้อก็แปรสภาพก็ทำให้เซลล์เสื่อม 
  5. การสะสมของสารพิษ จากสิ่งแวดล้อมภายนอกที่เราต้องสัมผัส เช่น ควันบุหรี่ รังสี สารเคมี โลหะหนัก ควันพิษจากโรงงานอุตสาหกรรมหรือจากอาหารที่เรารับประทานเข้าไป พวกสารพิษต่างๆ จะไปสะสมที่เซลล์ ทำให้เซลล์ทำงานผิดปกติ 
  6. ภาวะเป็นกรด ในทุกๆ วันร่างกายจะมีการสร้างกรด ส่วนหนึ่งมาจากอาหารที่เรารับประทาน (โปรตีนสูง) และอีกส่วนจากการเผาผลาญอาหารให้เป็นพลังงาน ร่างกายจะปรับสมดุลของกรดเหล่านี้ให้กลับสู่ปกติ ตับจะทำหน้าที่เปลี่ยนกรดบางชนิดให้เป็นด่าง ปอดจะช่วยขับกรดออกจากร่างกายในรูปของคาร์บอนไดออกไซด์ และไตจะขับกรดออกทางปัสสาวะในรูปของแอมโมเนีย ดังนั้นภาวะเป็นกรดจะส่งผลให้อวัยวะต่างๆ ทำงานหนักขึ้นและเสื่อมสภาพไปเรื่อยๆ 
  7. ภาวะเสื่อมสภาพของเซลล์ต้นกำเนิด หรือที่เรียกว่า สเต็มเซลล์ จะสังเกตได้ว่าเมื่ออายุมากขึ้นเวลาที่ไม่สบายจะหายช้า ไม่เหมือนตอนที่เป็นเด็ก เพราะเซลล์ต้นกำเนิดของเราหรือสเต็มเซลล์มีการเสื่อมสภาพลง การซ่อมแซมก็น้อยลงกว่าปกติ 

 

สร้างร่างกายให้ไม่เสื่อมก่อนวัย ด้วย 4 หลักการสำคัญของศาสตร์ชะลอวัย 

  1. เลือกสารอาหารที่ดี 
  2. นอนให้มีประสิทธิภาพ 
  3. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ 
  4. ลดความเครียด 

 

วิธีการชะลอวัยยอดนิยม 

  1. การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต 
    • รับประทานอาหารที่ถูกหลักโภชนาการ เช่น ลดอาหารแปรรูป เพิ่มผักผลไม้ และเลือกไขมันดี 
    • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ 
    • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ประมาณ 7-9 ชั่วโมงต่อคืน 
    • จัดการความเครียด ด้วยวิธีต่างๆ เช่น การฝึกสมาธิ โยคะ หรือการใช้เวลากับธรรมชาติ 
  2. การเสริมวิตามินและแร่ธาตุ
    • วิตามินและแร่ธาตุ เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการทำงานของร่างกาย แต่ร่างกายสร้างเองไม่ได้ ต้องได้รับจากอาหาร การเสริมวิตามินและแร่ธาตุ ช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ ส่งเสริมสุขภาพ และชะลอวัย ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อประเมินความต้องการ และได้รับคำแนะนำในการเสริมวิตามินและแร่ธาตุที่เหมาะสม
  3. การปรับสมดุลฮอร์โมน 
    • ฮอร์โมน มีบทบาทสำคัญในการควบคุมการทำงานของร่างกาย เช่น การเจริญเติบโต การเผาผลาญพลังงาน และอารมณ์ ระดับฮอร์โมนจะลดลงตามอายุ ส่งผลต่อสุขภาพ และความแข็งแรงของร่างกาย การตรวจวัดระดับฮอร์โมน และการปรับสมดุลฮอร์โมน ช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
  4. การล้างพิษ

    • การกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย เช่น สารพิษจากอาหาร มลพิษ และยาการล้างพิษช่วยลดภาระการทำงานของอวัยวะต่างๆ เช่น ตับ และไต ส่งผลดีต่อสุขภาพ และการชะลอวัย หลากหลายวิธีในการล้างพิษ เช่น การดื่มน้ำสะอาด การรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง และการอบซาวน่า 

  5. เทคโนโลยีทางการแพทย์  

    • ช่วยแก้ไขปัญหาสุขภาพ และความงาม ที่เกี่ยวข้องกับวัย เช่น เลเซอร์ ฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ และการผ่าตัด ควรเลือกสถานพยาบาล และแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อความปลอดภัย และประสิทธิภาพของการรักษา 

 

ประโยชน์ของเวชศาสตร์ชะลอวัย 

  • สุขภาพแข็งแรง: ลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็ง และโรคอัลไซเมอร์ 
  • อายุยืนยาว: ช่วยให้มีอายุยืน และมีสุขภาพดี ตลอดช่วงชีวิต 
  • คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น: เพิ่มพลังงาน ความจำ สมาธิ และสมรรถภาพทางเพศ 
  • รูปลักษณ์อ่อนเยาว์: ผิวพรรณสดใส เต่งตึง และดูอ่อนกว่าวัย 

ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย Aestheta Wellness เปิดให้บริการที่ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค ศรีนครินทร์ ชั้น 3  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดหมายได้ที่ 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดหมายแพทย์ ได้ที่ Aestheta wellness @พาราไดซ์ พาร์ค เปิดให้บริการทุกวัน 10.30-20.00 น. 

โทร. 062-7818997

Line: @Aestheta

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ คลินิกพรีเมียม Aestheta wellness @พาราไดซ์ พาร์ค คลิกที่นี่

หมายเหตุ: บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลความรู้ ไม่สามารถใช้แทนคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ หากมีข้อสงสัย หรือต้องการคำแนะนำในการรักษา ควรปรึกษาแพทย์