โรคกระเพาะ อาการ สาเหตุ และวิธีป้องกันที่คุณต้องรู้

  •  20 ก.พ. 68

โรคกระเพาะอาหารและกรดไหลย้อน อาการ สาเหตุ และวิธีป้องกันที่คุณต้องรู้

เจาะลึกข้อมูลเกี่ยวกับโรคกระเพาะอาหารและกรดไหลย้อน รวมถึงอาการ สาเหตุ วิธีรักษา และเคล็ดลับการดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากปัญหาสุขภาพเหล่านี้ อ่านเพิ่มเติมเพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว!

ความสำคัญของกระเพาะอาหาร

กระเพาะอาหารเป็นอวัยวะสำคัญในระบบย่อยอาหาร มีหน้าที่หลั่งกรดและเอนไซม์เพื่อย่อยสลายอาหารก่อนส่งต่อไปยังลำไส้เล็ก กระบวนการนี้มีความสำคัญต่อการดูดซึมสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ความผิดปกติที่เกิดขึ้นในกระเพาะอาหาร เช่น การอักเสบ หรือแผลในเยื่อบุกระเพาะ อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย

 

โรคกระเพาะอาหารกับกรดไหลย้อน ต่างกันอย่างไร 

โรคกระเพาะอาหาร (Dyspepsia) และกรดไหลย้อน (Gastroesophageal Reflux Disease หรือ GERD) มีลักษณะคล้ายกันแต่เกิดจากสาเหตุและกระบวนการที่แตกต่างกัน: 

  • โรคกระเพาะอาหาร: เกิดจากกระเพาะอาหารอักเสบ  ระคายเคือง หรือแผลในเยื่อบุกระเพาะอาหาร อันเนื่องมาจากเชื้อแบคทีเรีย Helicobacter pylori (H. pylori) การใช้ยาบางชนิด หรือพฤติกรรมการกินที่ไม่เหมาะสม อาการหลักคือปวดแสบร้อนบริเวณช่องท้องส่วนบน ท้องอืด และคลื่นไส้ 
  • กรดไหลย้อน: เกิดจากกรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับขึ้นไปในหลอดอาหาร ทำให้เกิดการระคายเคืองและอักเสบ ผู้ป่วยมักมีอาการแสบร้อนกลางอก เรอเปรี้ยว เจ็บคอ และไอเรื้อรัง ซึ่งอาการมักรุนแรงขึ้นหลังรับประทานอาหารหรือเมื่อนอนราบ

ผู้ป่วยโรคกระเพาะอาหารอาจมีโอกาสเกิดกรดไหลย้อนร่วมด้วย เนื่องจากการอักเสบในกระเพาะอาหารอาจส่งผลต่อการทำงานของหูรูดหลอดอาหารส่วนล่าง ซึ่งมีหน้าที่ป้องกันไม่ให้กรดไหลย้อนกลับขึ้นมา 

 

อาการโรคกระเพาะ 

อาการของโรคกระเพาะอาหารนั้น มีความหลากหลาย และอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับชนิด ความรุนแรง และตำแหน่งของความผิดปกติ 

อาการที่พบบ่อย ได้แก่:

  • ปวดท้อง: เป็นอาการหลักของโรคกระเพาะอาหาร ลักษณะอาการปวดอาจแตกต่างกันไป เช่น: 
  • ปวดแสบร้อนในช่องท้องส่วนบนหรือใต้ลิ้นปี่ 
  • ปวดตื้อๆ หรือปวดบีบในช่องท้อง 
  • ปวดมากขึ้นหลังรับประทานอาหาร โดยเฉพาะอาหารรสจัดหรืออาหารมัน 
  • ปวดมากขึ้นในช่วงเวลาที่ท้องว่าง เช่น ตอนเช้าหรือกลางดึก 
  • คลื่นไส้ อาเจียน: อาจเกิดขึ้นหลังรับประทานอาหารหรือในขณะที่ท้องว่าง 
  • ท้องอืด ท้องเฟ้อ: รู้สึกอึดอัด แน่นท้องหลังรับประทานอาหาร 
  • เรอบ่อย: เนื่องจากมีแก๊สในกระเพาะอาหารมาก 
  • เบื่ออาหาร อิ่มเร็ว: รับประทานอาหารได้น้อยลงกว่าปกติ 
  • น้ำหนักลด: โดยไม่ทราบสาเหตุ 
  • ถ่ายอุจจาระผิดปกติ: เช่น ท้องผูกหรือท้องเสีย 
  • อาเจียนเป็นเลือด หรือถ่ายอุจจาระเป็นเลือด: เป็นอาการที่รุนแรงและควรพบแพทย์ทันที 

 

อาการกรดไหลย้อนที่พบบ่อย 

  • แสบร้อนกลางอก: เป็นอาการที่พบได้บ่อยที่สุด รู้สึกเหมือนมีไฟไหม้หรือแสบร้อนบริเวณกลางอกและลิ้นปี่ มักเป็นมากขึ้นหลังรับประทานอาหารหรือเมื่อนอนราบ 
  • เรอเปรี้ยว หรือมีรสขมในปาก: เนื่องจากกรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมาถึงปาก 
  • กลืนลำบาก: รู้สึกเหมือนมีก้อนติดอยู่ในคอ หรือกลืนอาหารไม่ลง 
  • เจ็บคอ เสียงแหบ: กรดระคายเคืองเยื่อบุหลอดอาหารและกล่องเสียง 
  • ไอเรื้อรัง: เกิดจากการระคายเคืองของหลอดลมจากกรด 
  • หอบหืด: ในบางราย กรดไหลย้อนอาจกระตุ้นให้เกิดอาการหอบหืด 

 

อาการที่บ่งบอกถึงภาวะแทรกซ้อน 

  • ปวดท้องรุนแรง เฉียบพลัน 
  • อาเจียนเป็นเลือด ปริมาณมาก 
  • ถ่ายอุจจาระเป็นสีดำ 
  • ตัวซีด ใจสั่น 
  • เป็นลม

*หากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบพบแพทย์ทันที 

 

สาเหตุโรคกระเพาะ 

โรคกระเพาะอาหารเกิดจากหลายปัจจัย เช่น: 

  • เชื้อแบคทีเรีย Helicobacter pylori (H. pylori): สาเหตุหลักของโรคกระเพาะและแผลในกระเพาะอาหาร 
  • การใช้ยาบางชนิด: เช่น ยาแก้ปวด ยาต้านการอักเสบ (NSAIDs) และยาสเตียรอยด์ 
  • พฤติกรรมการรับประทานอาหาร: เช่น การกินไม่ตรงเวลา อาหารรสจัด อาหารมัน หรือดื่มแอลกอฮอล์ 
  • ความเครียด: ส่งผลต่อการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร 
  • การสูบบุหรี่: ทำให้เยื่อบุกระเพาะอาหารอ่อนแอ  

 

การรักษาโรคกระเพาะ 

การรักษา ขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของโรค เช่น: 

  • การใช้ยาแก้โรคกระเพาะอาหาร 
    • ยาลดกรด เช่น Antacids หรือ Proton Pump Inhibitors (PPIs) 
    • ยาเคลือบกระเพาะ และยาป้องกันการหลั่งกรด 
    • ยาฆ่าเชื้อ H. pylori หากตรวจพบเชื้อ
  • การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม 
    • รับประทานอาหารให้ตรงเวลา หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด อาหารมัน อาหารทอด แอลกอฮอล์ และกาแฟ 
    • งดสูบบุหรี่ 
    • จัดการความเครียดด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น การทำสมาธิ การฟังเพลง หรือการออกกำลังกาย 
  • การผ่าตัด 
    • ใช้ในกรณีที่มีภาวะแทรกซ้อน เช่น เลือดออกในกระเพาะอาหาร หรือกระเพาะอาหารทะลุ 

 

วิธีป้องกันโรคกระเพาะอาหาร และการดูแลตัวเอง 

การดูแลตัวเองเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันและบรรเทาอาการของโรคกระเพาะอาหาร: 

  • ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร: 
    • รับประทานอาหารให้ตรงเวลา อย่างน้อย 3 มื้อต่อวัน 
    • เคี้ยวอาหารให้ละเอียดก่อนกลืน 
    • รับประทานอาหารในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่ควรรับประทานจนอิ่มเกินไป 
    • อาหารต้องห้ามสำหรับโรคกระเพาะ นั้น ให้หลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นการหลั่งกรด เช่น อาหารรสจัด อาหารมัน อาหารทอด แอลกอฮอล์ กาแฟ น้ำอัดลม ช็อกโกแลต มะเขือเทศ และผลไม้รสเปรี้ยว 
    • งดรับประทานอาหารก่อนนอนอย่างน้อย 3 ชั่วโมง 
    • ดื่มน้ำสะอาดอย่างเพียงพอ: ควรดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว 
  • งดสูบบุหรี่: บุหรี่มีสารนิโคตินที่กระตุ้นการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร 
  • พักผ่อนให้เพียงพอ: ควรนอนหลับวันละ 7-8 ชั่วโมง 
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น

รวมร้านอาหารสุขภาพในศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค

  • BAIMIANG - ร้านค้าสินค้าเพื่อสุขภาพที่ตอบโจทย์คนรักสุขภาพ มีทั้งอาหารพร้อมทาน ขนม เบเกอรี่ และผลิตภัณฑ์เฮลตี้ วัตถุดิบจากแบรนด์ดัง

    • พิกัด: ชั้น G โซน B

    • เวลาเปิดทำการ:

      • จันทร์ - ศุกร์ 10.30 - 21.00 น.

      • เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 10.00 - 21.00 น.

  • LEMON FARM - น้ำผึ้งคัดสรรอาหารธรรมชาติ คุณภาพสูงเพื่อเป็นทางเลือกสุขภาพดีสำหรับคุณ

    • พิกัด: ชั้น G โซน B

    • เวลาเปิดทำการ:

      • จันทร์ - ศุกร์ 10.30 - 21.00 น.

      • เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 10.00 - 21.00 น.

  • WHITE STORY - อาหารฟิวชันหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกมื้อสุขภาพ

    • พิกัด: ชั้น G โซน B

    • เวลาเปิดทำการ:

      • จันทร์ - ศุกร์ 10.30 - 21.00 น.

      • เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 10.00 - 21.00 น.

  • WATCHARAWAN GREEN FARM - อาหารและผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก สดใหม่ ปลอดภัย ส่งตรงถึงมือคุณ 

    • พิกัด: ชั้น G โซน A

    • เวลาเปิดทำการ:

      • จันทร์ - ศุกร์ 10.30 - 21.00 น.

      • เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 10.00 - 21.00 น.

  • TAN TAN - ทาน ทาน - รวมผลไม้อบแห้งสารอาหารสูง เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณแบบปัง ๆ

    • พิกัด: ชั้น G โซน B

    • เวลาเปิดทำการ:

      • จันทร์ - ศุกร์ 10.30 - 21.00 น.

      • เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 10.00 - 21.00 น.

  • SIZZLER - ซิซซ์เล่อร์ - สลัดบาร์แบบจัดเต็ม เหมาะกับทุกวัย

    • พิกัด: ชั้น G โซน B

    • เวลาเปิดทำการ:

      • จันทร์ - ศุกร์ 10.30 - 21.00 น.

      • เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 10.00 - 21.00 น.

  • SALAD FACTORY - รวมสลัดหลากหลายสไตล์ พร้อมเมนูเพื่อสุขภาพที่คุณต้องลอง

    • พิกัด: ชั้น G โซน B

    • เวลาเปิดทำการ:

      • จันทร์ - ศุกร์ 10.30 - 21.00 น.

      • เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 10.00 - 21.00 น.

  • SABAIJAI สบายใจ - จำหน่ายสินค้าเพื่อสุขภาพแบบครบวงจร ทั้งสินค้าอุปโภคและบริโภคที่มีคุณภาพจากธรรมชาติ

    • พิกัด: ชั้น G โซน B

    • เวลาเปิดทำการ:

      • จันทร์ - ศุกร์ 10.30 - 21.00 น.

      • เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 10.00 - 21.00 น.

 

สำหรับผู้ที่มีอาการกรดไหลย้อน

  • นอนหนุนหัวสูง: ประมาณ 6-8 นิ้ว เพื่อป้องกันกรดไหลย้อน 
  • ลดน้ำหนัก: หากมีภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน 
  • พบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพเป็นประจำ: โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงหรือมีอาการเรื้อรัง 

 

มะเร็งกระเพาะอาหาร

มะเร็งกระเพาะอาหารเป็นโรคที่เกิดจากการเจริญเติบโตที่ผิดปกติของเซลล์ในเยื่อบุกระเพาะอาหาร ซึ่งสามารถลุกลามไปยังส่วนอื่นของร่างกายได้ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม

 

อาการของมะเร็งกระเพาะอาหาร

  • ปวดท้องเรื้อรัง โดยเฉพาะบริเวณลิ้นปี่ 
  • เบื่ออาหารและน้ำหนักลดอย่างรวดเร็วโดยไม่ทราบสาเหตุ 
  • คลื่นไส้ อาเจียน บางครั้งมีเลือดปน 
  • ถ่ายอุจจาระเป็นสีดำ เนื่องจากมีเลือดในระบบทางเดินอาหาร 
  • ท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือรู้สึกอิ่มเร็วหลังรับประทานอาหารเพียงเล็กน้อย 

 

ปัจจัยเสี่ยง 

  • การติดเชื้อ Helicobacter pylori 
  • การรับประทานอาหารเค็ม อาหารหมักดอง หรืออาหารที่มีสารไนโตรซามีน 
  • การสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์ 
  • ประวัติครอบครัวที่เคยมีผู้ป่วยมะเร็งกระเพาะอาหาร 

 

การป้องกัน 

  • หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีความเสี่ยง เช่น อาหารเค็มจัดและอาหารหมักดอง 
  • รับประทานผักและผลไม้สดอย่างเพียงพอ 
  • งดสูบบุหรี่และลดการดื่มแอลกอฮอล์ 
  • ตรวจสุขภาพและปรึกษาแพทย์หากมีอาการผิดปกติในระบบทางเดินอาหาร 

 

การรักษา 

การรักษามะเร็งกระเพาะอาหารขึ้นอยู่กับระยะของโรคและสุขภาพของผู้ป่วย เช่น: 

  • การผ่าตัดเพื่อกำจัดเซลล์มะเร็ง 
  • การทำเคมีบำบัดและรังสีรักษา 
  • การรักษาด้วยยามุ่งเป้า (Targeted therapy) เพื่อควบคุมการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง 

โรคกระเพาะอาหารและกรดไหลย้อนสามารถป้องกันได้ด้วยการดูแลสุขภาพและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอย่างเหมาะสม หากคุณมีอาการผิดปกติ ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันโรคกระเพาะอาหารเรื้อรังและภาวะแทรกซ้อนในอนาคต 


สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในย่านศรีนครินทร์ และพื้นที่ใกล้เคียง "คลินิกพรีเมียม รามาธิบดี เฮลธ์ สเปซ @พาราไดซ์ พาร์ค" (Ramathibodi Health Space) ที่ตั้งอยู่ภายในศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค ชั้น 3 เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สะดวกสบาย ในการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดหมายแพทย์ ได้ที่ รามาธิบดี เฮลธ์ สเปซ ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค เปิดให้บริการทุกวัน 8.00-20.00 น. 

โทร. 0-2201-0640-45 

Line Official Account : @ramaparadise

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ คลินิกพรีเมียม รามาธิบดี เฮลธ์ สเปซ @พาราไดซ์ พาร์ค คลิกที่นี่

คลีนิกพรีเมี่ยมรามาธิบดี เฮลธ์ สเปซ

รามาธิบดี เฮลธ์ สเปซ (ด้านหน้า)

หมายเหตุ: บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลความรู้ ไม่สามารถใช้แทนคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ หากมีข้อสงสัย หรือต้องการคำแนะนำในการรักษา ควรปรึกษาแพทย์