ไข้หวัดใหญ่ในเด็กและผู้ใหญ่ ป้องกันครอบครัวของคุณให้ปลอดภัย
ไข้หวัดใหญ่ คืออะไร ไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่พบได้บ่อยในเด็ก ทำให้เด็ก ๆ รู้สึกไม่สบายและบางครั้งผู้ใหญ่ก็มีอาการป่วยที่รุนแรงจนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน้หรือเสียชีวิตได้ หากคุณสังเกตเห็นลูกน้อยหรือตัวเองมีอาการผิดปกติ ควรระวังว่าอาจเป็น ไข้หวัดใหญ่และรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง
ไข้หวัดใหญ่ในประเทศไทยปี 2024 ยังคงเป็นที่จับตามองอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีการระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่หลายสายพันธุ์ ส่งผลให้มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็กและผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง จากข้อมูลล่าสุดพบว่ามีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่จำนวนมากทั่วประเทศ คิดเป็นสัดส่วนที่สูงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงฤดูหนาว
อาการไข้หวัดใหญ่ ที่พบบ่อย ได้แก่
- ไข้สูง: เป็นอาการเด่นชัดที่สุด มักมีไข้สูงเฉียบพลัน
- ปวดเมื่อยตามตัว: โดยเฉพาะบริเวณกล้ามเนื้อและข้อต่อ
- ปวดหัว: รู้สึกปวดศีรษะอย่างรุนแรง
- ไอ: อาจมีไอแห้งหรือมีเสมหะ
- น้ำมูกไหล: น้ำมูกใสหรือข้น
- เจ็บคอ: รู้สึกเจ็บและระคายคอ
- เบื่ออาหาร: เด็กอาจไม่อยากทานอาหาร
- อ่อนเพลีย: รู้สึกไม่มีแรงและอยากนอน
หากเป็นไข้หวัดใหญ่รุนแรง อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงได้ เช่น
ไข้หวัดใหญ่ ถึงแม้จะเป็นโรคที่พบได้บ่อย แต่หากมีอาการรุนแรงอาจนำไปสู่ ภาวะแทรกซ้อน ที่เป็นอันตรายถึงชีวิตได้ โดยภาวะแทรกซ้อนมีดังนี้
- ปอดอักเสบ: เป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อยที่สุด เกิดจากเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสเข้าไปทำลายปอด ทำให้หายใจลำบาก หายใจเร็ว หรือหายใจมีเสียงหวีด
- สมองอักเสบ: เชื้อไวรัสอาจเข้าไปทำลายสมอง ทำให้เกิดอาการปวดหัวรุนแรง คลื่นไส้ อาเจียน ชัก หมดสติ หรือเสียชีวิต
- กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ: เกิดจากเชื้อไวรัสเข้าไปทำลายกล้ามเนื้อหัวใจ ทำให้หัวใจทำงานผิดปกติ อาจนำไปสู่ภาวะหัวใจล้มเหลว
- ภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ: เช่น ไซนัสอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ กล้ามเนื้ออ่อนแรง
กลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ได้แก่
- เด็กเล็ก: โดยเฉพาะเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ มีภูมิคุ้มกันต่ำ และหายจากโรคช้า
- ผู้สูงอายุ: ผู้สูงอายุมีโอกาสเสี่ยงเนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
- หญิงตั้งครรภ์: หญิงตั้งครรภ์มีภาวะภูมิคุ้มกันเปลี่ยนแปลง
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง: เช่น โรคปอด โรคหัวใจ เบาหวาน ภูมิแพ้
- ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง: เช่น ผู้ป่วยเอชไอวี ผู้ที่ได้รับเคมีบำบัด
หากคุณหรือคนในครอบครัวมีอาการไข้หวัดใหญ่รุนแรง ควรรีบไปพบแพทย์ทันที อาการที่บ่งบอกว่าควรไปพบแพทย์มีดังนี้
- ไข้สูงเกิน 38 องศาเซลเซียส
- หายใจลำบาก หายใจเร็ว
- เจ็บหน้าอก
- เวียนศีรษะ
- เกิดอาการชัก เกร็ง
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง
- อาเจียนรุนแรง
- ไม่สามารถกินน้ำหรืออาหารได้
วิธีดูแลเด็กที่เป็นไข้หวัดใหญ่
- พักผ่อนให้เพียงพอ: การพักผ่อนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นตัว
- ดื่มน้ำมากๆ: ช่วยลดไข้และป้องกันภาวะขาดน้ำ
- รับประทานอาหารอ่อน: เลือกอาหารที่ย่อยง่าย เช่น โจ๊ก ซุป
- ใช้ยาตามแพทย์สั่ง: หากมีไข้สูง ควรให้ยาลดไข้ตามคำแนะนำของแพทย์
- พาพบแพทย์: หากอาการไม่ดีขึ้น หรือมีอาการรุนแรง เช่น หายใจลำบาก ซึมลง ควรรีบพาพบแพทย์
ป้องกันไข้หวัดใหญ่
- ล้างมือบ่อยๆ: โดยเฉพาะก่อนรับประทานอาหาร และหลังจากไปในที่สาธารณะ
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ป่วย: หากมีคนในบ้านป่วย ควรแยกผู้ป่วยออกจากคนอื่น กินข้าวแบบมีช้อนกลางเพื่อป้องกันการสัมผัสน้ำลาย
- สวมหน้ากากอนามัย: เมื่ออยู่ในที่ที่มีคนจำนวนมาก
- ฉีดวัคซีน: เป็นวิธีป้องกันที่ดีที่สุดโดยเฉพาะการฉีดวัคซีนให้เด็ก
หากครอบครัวกำลังมองหาสถานที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ให้กับเด็ก ลูก หรือตนเอง ที่สะดวกสบายและได้มาตรฐาน คลินิกพรีเมียม รามาธิบดี เฮลธ์ สเปซ @พาราไดซ์ พาร์ค คือคำตอบที่คุณกำลังตามหา
ข้อควรระวัง
ไข้หวัดใหญ่ในเด็ก อาจมีภาวะแทรกซ้อนได้ หากไม่ได้รับการดูแลที่ถูกต้อง เช่น ปอดอักเสบ หากเด็กมีอาการรุนแรง เช่น หายใจลำบาก ซึมลง หรือมีไข้สูงติดต่อกันหลายวัน ควรรีบพาพบแพทย์ทันที
สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในย่านศรีนครินทร์ และพื้นที่ใกล้เคียง "คลินิกพรีเมียม รามาธิบดี เฮลธ์ สเปซ @พาราไดซ์ พาร์ค" (Ramathibodi Health Space) ที่ตั้งอยู่ภายในศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค ชั้น 3 เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สะดวกสบาย ในการเข้าถึงบริการทางการแพทย์
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดหมายแพทย์ ได้ที่ รามาธิบดี เฮลธ์ สเปซ ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค เปิดให้บริการทุกวัน 8.00-20.00 น.
โทร. 0-2201-0640-45
Line Official Account : @ramaparadise
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ คลินิกพรีเมียม รามาธิบดี เฮลธ์ สเปซ @พาราไดซ์ พาร์ค คลิกที่นี่
หมายเหตุ: บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลความรู้ ไม่สามารถใช้แทนคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ หากมีข้อสงสัย หรือต้องการคำแนะนำในการรักษา ควรปรึกษาแพทย์