รู้จัก Trigger Points หรือพังผืด ภัยร้ายที่แฝงตัวในร่างกาย

  •  10 มี.ค. 68

รู้จัก Trigger Points หรือพังผืด ภัยร้ายที่แฝงตัวในร่างกาย 

เคยไหม? ที่รู้สึกปวดเมื่อยตามตัวแบบเรื้อรัง ปวดหลัง ปวดคอ ปวดบ่า ปวดขา หรือแม้กระทั่งชาตามปลายมือปลายเท้า อาการเหล่านี้อาจไม่ได้มีสาเหตุจากโรคอะไรร้ายแรง แต่อาจเป็นสัญญาณเตือนของ "Trigger Points" หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ "พังผืด"

 

Trigger Points คืออะไร? 

Trigger Points หรือจุดกดเจ็บ คือบริเวณที่กล้ามเนื้อมีการหดเกร็งและไวต่อการกด เมื่อกดลงไปจะรู้สึกเจ็บ และอาจมีอาการปวดส่งไปยังบริเวณอื่นๆ ของร่างกายได้  โดยปกติแล้วอาการผิดปกติต่างๆ ของกล้ามเนื้อ มักจะเกิดจาก Trigger Points หรือพังผืดไปเกาะรัดเนื้อเยื่อบริเวณนั้นๆ ทำให้เนื้อเยื่อเหล่านี้เกิดอาการตึงเครียด และเกร็งตัวจนไปขัดขวางเส้นเลือดไม่ให้นำพาสารอาหาร และออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงได้เต็มที่ ส่งผลให้เกิดอาการปวด ตึง ชา อ่อนแรง ฯลฯ 

 

Trigger Points เกี่ยวข้องกับโรคอะไรบ้าง? 

Trigger Points สามารถส่งผลกระทบต่อกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อเกี่ยวพันในหลายส่วนของร่างกาย ทำให้เกิดอาการปวดและไม่สบายตัว ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับโรคต่างๆ ได้ดังนี้ 

  1. Myofascial Pain Syndrome (MPS): กลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อและพังผืดเรื้อรัง ซึ่งมีลักษณะเด่นคือมี Trigger Points หลายจุด ทำให้เกิดอาการปวดร้าวไปยังบริเวณต่างๆ 
  2. Tension Headache: ปวดศีรษะจากความตึงเครียด ซึ่งมักมี Trigger Points บริเวณบ่า คอ และหลัง 
  3. Temporomandibular Joint Disorder (TMJ): ความผิดปกติของข้อต่อขากรรไกร ซึ่งอาจมี Trigger Points บริเวณกราม ขมับ และใบหน้า 
  4. Back Pain: อาการปวดหลัง ซึ่งอาจมี Trigger Points บริเวณกล้ามเนื้อหลังส่วนบน กล้ามเนื้อหลังส่วนล่าง และกล้ามเนื้อสะโพก 
  5. Neck Pain: อาการปวดคอ ซึ่งอาจมี Trigger Points บริเวณกล้ามเนื้อคอ กล้ามเนื้อบ่า และกล้ามเนื้อหลังส่วนบน 
  6. Shoulder Pain: อาการปวดไหล่ ซึ่งอาจมี Trigger Points บริเวณกล้ามเนื้อรอบหัวไหล่ กล้ามเนื้อบ่า และกล้ามเนื้อหลัง 
  7. Carpal Tunnel Syndrome: กลุ่มอาการที่เกิดจากการกดทับเส้นประสาทบริเวณข้อมือ ซึ่งอาจมี Trigger Points บริเวณกล้ามเนื้อแขนท่อนปลาย 
  8. Plantar Fasciitis: การอักเสบของพังผืดใต้ฝ่าเท้า ซึ่งอาจมี Trigger Points บริเวณกล้ามเนื้อน่อง 
  9. ปวดขา: Trigger Points บริเวณกล้ามเนื้อต้นขา น่อง หรือเท้า 
  10. ปวดเข่า: Trigger Points บริเวณกล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า ด้านหลัง หรือน่อง 
  11. ปวดข้อศอก: Trigger Points บริเวณกล้ามเนื้อแขนท่อนบน หรือท่อนล่าง 
  12. อาการชาตามปลายมือปลายเท้า: Trigger Points บริเวณคอ บ่า หรือหลัง อาจส่งผลให้เกิดอาการชาตามปลายมือปลายเท้าได้ 

 

การกดจุดสลาย Trigger Points จะเข้าไปแก้อาการปวดได้อย่างตรงจุด เมื่อพังผืดถูกสลายออกจนหมดแล้ว ระบบการลำเลียงสารอาหาร และออกซิเจนจะทำงานได้เต็มที่ เส้นประสาทจะกลับมาทำงานได้ตามปกติ อาการปวด ตึง ชา แสบร้อน อ่อนแรง หรืออาการผิดปกติอื่นๆ ก็จะหายไป 

 

คลินิกหมอโสฬส พาราไดซ์พาร์ค ช่วยคุณได้อย่างไร? 

คลินิกหมอโสฬสมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาอาการบาดเจ็บจากการปวดเมื่อยร่างกายพร้อมให้บริการตรวจประเมินสภาพกล้ามเนื้อ ตามหลักวิทยาศาสตร์การแพทย์ วางแผนการรักษา และให้คำแนะนำในการดูแลตัวเอง เพื่อให้นักวิ่งทุกคนสามารถกลับไปวิ่งได้อย่างมีความสุขอีกครั้ง 

  • การรักษาโดยการกดจุด Trigger Points: การกดจุด Trigger Points เป็นเทคนิคการรักษาที่มีประสิทธิภาพในการลดอาการปวด และคลายกล้ามเนื้อที่หดเกร็ง หรือพังผืด ช่วยลดการตึงเครียดของกล้ามเนื้อ เพิ่มการไหลเวียนของเลือด และเพิ่มประสิทธิภาพในการวิ่ง 
  • รักษาอาการบาดเจ็บ: ไม่ว่าคุณจะมีอาการปวดเข่า ข้อเท้า หรือกล้ามเนื้อส่วนอื่นๆ คุณหมอสามารถวินิจฉัยและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม เพื่อให้คุณกลับไปวิ่งได้อีกครั้ง 
  • ประเมินสภาพกล้ามเนื้อ: สำหรับนักวิ่งที่ยังไม่มีอาการบาดเจ็บ การตรวจประเมินสภาพกล้ามเนื้อจะช่วยให้คุณรู้ถึงประสิทธิภาพของกล้ามเนื้อ และวางแผนการฝึกซ้อมได้อย่างเหมาะสม 

 

การกดจุดสลาย Trigger Point คือ การนวดเพื่อสลายปมกล้ามเนื้อเหล่านี้ ช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย เลือดไหลเวียนดีขึ้น และอาการปวดต่างๆ จะเน้นการแก้ปัญหาที่ผิดปกติของกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และข้อต่อขณะทำการรักษา จะรู้สึกเจ็บกว่าการนวดแผนไทยทั่วไป ในทุกๆ ครั้งที่ทำการรักษา พังผืดจะค่อยๆ ถูกสลายไปเรื่อยๆ เมื่อพังผืดถูกสลายจนหมด กล้ามเนื้อ และข้อต่อบริเวณนั้นๆ มีความยืดหยุ่น อาการปวด ตึง ชา แสบร้อน อ่อนแรง หรืออาการผิดปกติอื่นๆ จะหายไปอย่างถาวร 

 

ข้อดีของการกดจุดลึกสลาย Trigger Point 

  • แก้ปัญหาตรงจุด: แก้ปมกล้ามเนื้อที่เป็นต้นเหตุของอาการปวดโดยตรง 
  • เห็นผลเร็ว: อาการดีขึ้นหลังทำเพียง 1-2 ครั้ง 
  • ผลลัพธ์อยู่ได้นาน: หากดูแล ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม อาการปวดเมื่อยจะหายไปอย่างถาวร แต่หากผู้ป่วยยังจำเป็นต้องอยู่ในอิริยาบถเดิมๆ ร่างกายก็จะค่อยๆ เริ่มสะสมพังผืดใหม่ แต่กว่าจะสะสมจนกลับมามีอาการแบบเดิมนั้น จะใช้ระยะเวลานานมาก (เป็น 10 ปี) 

 

ข้อควรระวัง 

  • รู้สึกเจ็บ: ระหว่างการรักษาจะรู้สึกเจ็บ เนื่องจากกดที่ปมกล้ามเนื้อโดยตรง 
  • อาการอาจเปลี่ยนแปลง: หลังทำ อาการปวดอาจย้ายที่ไปยังจุดอื่น แต่จะค่อยๆ หายไปเอง 

สรุป: การกดจุดลึกสลาย Trigger Point เป็นวิธีการรักษาที่ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยเรื้อรังได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากมีอาการปวดเรื้อรัง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม 

 

*หมายเหตุ: บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลความรู้ไม่สามารถใช้แทนคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ หากมีข้อสงสัย หรือต้องการคำแนะนำในการรักษา ควรปรึกษาแพทย์ 

บทความที่น่าสนใจที่เกี่ยวข้อง