รู้ทันปัญหาสายตา ปกป้องดวงตาคู่สวยของคุณ

  •  24 มี.ค. 68

 

รู้ทันปัญหาสายตา ปกป้องดวงตาคู่สวยของคุณ 

ดวงตาเป็นอวัยวะสำคัญที่ช่วยให้เรามองเห็นโลกและและทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างมีความสุข การดูแลสุขภาพตาเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคปัจจุบันที่การใช้สายตาจ้องมองหน้าจอเป็นเวลานานกลายเป็นเรื่องปกติ

รู้ทันปัญหาสายตา ปกป้องดวงตาคู่สวยของคุณ

ไขข้อสงสัย! สายตาสั้น ยาว เอียง คืออะไร

สายตาสั้น (Myopia)

เกิดจากการรวมแสงตกลงหน้าจอประสาทตา มักเกิดจากกระจกตามีความโค้งมากเกินไป ผู้ที่มีสายตาสั้นจึงมองเห็นได้ในระยะใกล้ แต่จะมองไม่ชัดในระยะไกล ซึ่งปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดภาวะสายตาสั้น เช่น พันธุกรรมจากพ่อแม่ หรือมีพฤติกรรมใช้สายตาในระยะใกล้มากเกินไป จากการอ่านหนังสือ ใช้คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ 

สายตายาวโดยกำเนิด (Hyperopia) 

คือการที่แสงไปโฟกัสที่ด้านหลังของจอประสาทตาแทนที่จะโฟกัสลงบนจอประสาทตา ทำให้มองเห็นวัตถุที่อยู่ใกล้และไกลไม่ชัด เด็กส่วนใหญ่เกิดมามีสายตายาวซึ่งไม่รู้ตัวเพราะว่ากล้ามเนื้อตามีความแข็งแรง ยืดหยุ่นได้ดี ทำให้ปรับการมองเห็นได้ดี และค่าสายตามักจะพัฒนาเป็นปกติเมื่อโตขึ้น แต่ในบางรายอาจมีสายตายาวไปตลอดและมีอาการชัดเจนขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น เนื่องจากกล้ามเนื้อตาที่ค่อยๆเสื่อมสภาพ 

สายตาเอียง (Astigmatism)

เกิดจากตวามโค้งของกระจกในแต่ละแนวไม่เท่ากัน ทำให้แสงโฟกัสที่จอประสาทไม่เป็นจุดเดียว จึงมองเห็นเป็นภาพซ้อน ทั้งนี้คนส่วนใหญ่มักเกิดมาพร้อมกับสายตาเอียงเล็กน้อยอยู่แล้ว และอาจเกิดร่วมกับภาวะสายตาสั้นและสายตายาว สำหรับผู้ที่มีสายตาเอียงมากจะมีอาการ เช่น มองเห็นภาพซ้อนหรือบิดเบี้ยว ปวดศรีษะ ปวดตา ตาล้า เห็นภาพเป็นแสงกระจายและต้องพยายามหรี่ตาอยู่ตลอดเวลาเพื่อปรับโฟกัสให้มองเห็นได้ชัดขึ้น 

สายตายาวในผู้สูงอายุ (Presbyopia)

เป็นภาวะจากการเสื่อมของกล้ามเนื้อในตาที่ใช้ในการปรับระยะมองใกล้-ไกล และเกิดจากการเริ่มแข็งตัวของเลนส์แก้วตาที่มีความยืดหยุ่นน้อยลง ทำให้มองใกล้ไม่ชัด ซึ่งภาวะสายตายาวในผู้สูงอายุจะเริ่มมีอาการในผู้ที่มีอายึประมาณ 40 ปีขึ้นไป 

รู้ทันปัญหาสายตา ปกป้องดวงตาคู่สวยของคุณ

สัญญาณเตือนว่าคุณอาจมีปัญหาสายตา 

  • มองเห็นภาพไม่ชัดเจนในระยะใกล้หรือไกล 
  • ต้องหรี่ตาหรือเพ่งมองเพื่อปรับโฟกัส 
  • ปวดตา ตาแห้ง หรือเมื่อยล้าตา 
  • ปวดศีรษะ 
  • มองเห็นแสงจ้าผิดปกติ 
  • มีปัญหาในการมองเห็นในเวลากลางคืน 

 

ทริคง่ายๆ ช่วยถนอมดวงตา 

  1. พักผ่อนสายตา: การพักเบรกสายตา ทุก 20 นาที ด้วยการมองพักสายตาออกไปไกล ๆ บริเวณพื้นที่โปร่ง โล่ง สบายสายตา จะลดอาการเกร็ง สามารถช่วยพักสายตาและถนอมสายตาได้ 
  2. การทำให้ดวงตามีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ: การใช้สายตานาน ๆ ที่เกิดจากการใช้สายตาในกิจวัตรประจำวันทั่วไป อาจก่อให้เกิดการเมื่อยล้าดวงตา ตาแห้ง ระคายเคืองได้ โดยสามารถเพิ่มความชุ่มชื่นของดวงตาได้ดังนี้ 
    • กะพริบตา ช่วยในการกระจายน้ำตาให้เคลือบกระจกตา สามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นของดวงตาได้อย่างเป็นธรรมชาติ 
    • น้ำตาเทียม สามารถเพิ่มความชุ่มชื่นดวงตาได้อย่างดี 
    • ดื่มน้ำเปล่าเป็นประจำสม่ำเสมอ อย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน เพื่อป้องกันให้ร่างกายไม่ขาดน้ำ เพราะการขาดน้ำในร่างกายนอกจากจะทำให้ระบบร่างกายไม่สามารถทำงานได้สมบูรณ์ ผิวพรรณสูญเสียความชุ่มชื่นแล้ว ยังส่งผลต่อดวงตาที่เกิดตาแห้งได้อีกด้วย 
  3. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์: อาหารบำรุงสายตา อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุสำคัญ เช่น 
    • วิตามิน A ช่วยในการทำงานของจอประสาทตาและช่วยในการมองเห็นเวลากลางคืน พบมากในผักจำพวก ชะอม ผักบุ้ง คะน้า ยอดกระถิน ตำลึง ผักโขม ฟักทอง  
    • วิตามิน B มีบทบาทในการชะลอการเกิดต้อกระจกได้ อาหารที่มีวิตามิน B ได้แก่ ตับ ไข่ เนื้อสัตว์ นมสด 
    • วิตามิน C เป็นที่รู้จักกันดีของการชะลอความแก่ ด้วยคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ยังพบว่าอาจช่วยชะลอการเกิดต้อกระจกอีกด้วย ผลไม้ที่มีวิตามิน C มาก ได้แก่ ฝรั่ง ส้ม สัปปะรด มะขามป้อม ส่วนผักได้แก่ กะหล่ำดอก บล๊อกโคลี่  
    • วิตามิน E: คุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระซึ่งอยู่ในเซลล์รับแสงที่จอประสาทตาและอาจช่วยชะลอการเกิดต้อกระจกเช่นเดียวกัน พบได้ใน ธัญพืช น้ำมันดอกคำฝอย ข้าวโพด ถั่วเหลือง 
    • เบต้าแคโรทีน (Betacarotene): สารตั้งต้นของวิตามิน A มีบาทบาทในการต้านอนุมูลอิสระและช่วยในการมองเห็นเวลากลางคืน เช่นเดียวกับวิตามิน A พบมากในผักผลไม้ที่มีสีเหลืองส้ม เช่น แครอท มะละกอ ข้าวโพดอ่อน หน่อไม้ฝรั่ง ผักบุ้ง 
    • ลูทีน (Lutein) และซีแซนทีน (Zeaxanthin) เป็นส่วนประกอบสำคัญที่พบในจุดรับภาพที่จอประสาทตาและเลนส์ตา มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ มีส่วนช่วยในการชะลอการเกิดต้อกระจกและโรคจอประสาทตาเสื่อม พบมากใน ผักโขม ข้าวโพด ไข่แดง บล็อกโคลี่ 
    • ซีลีเนียม (Selenium) เป็นสารอีกตัวหนึ่งที่ต้านอนุมูลอิสระและอาจช่วยชะลอการเกิดต้อกระจก พบใน หอยนางรม หอยลาย ตับไก่ เมล็ดทานตะวัน 
    • โอเมก้า 3 (Omega-3): เป็นกรดไขมันที่มีบทบาทสำคัญในการรักษาภาวะตาแห้ง พบมากใน ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน กีวี่ 
    • สังกะสี (Zinc): มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและช่วยทำให้จอประสาทเสื่อมที่เป็นอยู่แล้ว เป็นช้าลง พบใน หอยนางรม ตับ เนื้อสัตว์ 
  4. เลือกหนังสือที่พิมพ์จากกระดาษสะท้อนแสงน้อย เพื่อการถนอมดวงตา และไม่อ่านหนังสือขณะนั่งรถ เพราะว่าต้องมาปรับระยะโฟกัสอยู่ตลอดเวลาที่รถเคลื่อนไป 
  5. นั่งดูโทรทัศน์ห่างจากจอ 4-5 เท่าของความกว้างโทรทัศน์ 
  6. สวมแว่นว่ายน้ำทุกครั้ง เพื่อป้องกันคลอรีนในสระว่ายน้ำ 
  7. การทำงานที่ต้องใช้สายตา ควรอยู่ในจุดที่มีแสงสว่างเพียงพอ เพื่อสายตาจะได้ไม่ต้องทำงานหนักเกินไป 
  8. การประคบเย็นกล้ามเนื้อตา สามารถช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อตาได้ดี และยังลดการบวมของดวงตาได้อีกด้วย โดยสามารถประคบตาได้จาก เจลประคบตา หรือผ้าชุบน้ำเย็น โดยนำมาประคบตาประมาณ 3 - 5 นาที 
  9. การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ นอกจากจะช่วยให้ร่างกายสามารถฟื้นฟูสมรรถภาพต่าง ๆ ในร่างกายแล้ว ยังสามารถช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกายได้เป็นอย่างดี และยังช่วยฟื้นฟูดวงตาจากความเมื่อยล้าของกิจวัตรประจำวันที่ใช้สายตามาก ๆ ได้อย่างดีอีกด้วย 
  10. ตรวจสุขภาพตาเป็นประจำ: ตรวจสุขภาพตาอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อตรวจหาความผิดปกติและทำการรักษา การตรวจสายตาเป็นประจำจึงช่วยลด หรือรักษาโรคที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที 

สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ใน ย่านศรีนครินทร์ และพื้นที่ใกล้เคียง สามารถเข้ามารับคำแนะนำหรือรักษาปัญหาเกี่ยวกับ “สายตา” ได้ที่ ร้านแว่นท็อปเจริญ  ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค ตั้งอยู่ชั้น G และชั้น 3

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถมาที่หน้าสาขา เปิดทุกวัน 8.00 น.- 20.00 น.

โทร  02 103 6315

Facenook fanpage: Top Charoen Optical-Official

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับร้านแว่นท็อปเจริญ @พาราไดซ์ พาร์ค คลิกที่นี่

รู้ทันปัญหาสายตา ปกป้องดวงตาคู่สวยของคุณ

หมายเหตุ: บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลความรู้ ไม่สามารถใช้แทนคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ หากมีข้อสงสัย หรือต้องการคำแนะนำในการรักษา ควรปรึกษาแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญ