ส่วนใหญ่คนเรามักจะทุ่มเทเวลาไปกับการบำรุงผิวหน้าและผิวกาย เพราะเป็นส่วนที่มองเห็นชัดที่สุด อย่างไรก็ตาม หลายคนกลับละเลยเรื่องการบำรุงมือ เท้า และเล็บ แต่รู้ไหมว่า มือและเท้าเป็นส่วนที่เราต้องใช้งานตลอดเวลา ทั้งหยิบจับสิ่งของและเดินไปไหนมาไหน อีกทั้งคนที่ชอบทำเล็บอาจลืมไปว่า เมื่อแต่งแต้มสีสันแล้วก็ต้องบำรุงไม่ให้เล็บอ่อนแอด้วย บทความนี้ เราจะชวนคุณไปดูแลตัวเองง่ายๆ แค่ทำสปามือและสปาเท้า เพื่อคืนความนุ่มนวลชุ่มชื้นให้กับมือและเท้า ทั้งยังบำรุงให้เล็บสุขภาพดี ไม่ว่าจะทำกี่สี เล็บก็ยังแข็งแรง
5 ประโยชน์ของการทำสปามือและเท้า
ผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ
ผลิตภัณฑ์ขัดและบำรุงผิวที่ผสานน้ำมันหอมระเหยกลิ่นต่างๆ จะช่วยให้จิตใจสงบ ส่งผลให้ร่างกายเหมือนได้พักผ่อนและรู้สึกสดชื่นหลังจากทำสปา กลิ่นยอดนิยมมักจะเป็นลาเวนเดอร์ที่ช่วยลดความเครียด กลิ่นมะลิหอมเย็นสุดผ่อนคลาย กลิ่นกุหลาบที่เน้นเพิ่มความสดชื่น และกลิ่นไม้จันทน์หอม (Sandalwood) ที่ให้ความรู้สึกสงบและหรูหราในเวลาเดียวกัน
บำรุงมือและเท้าให้เนียนนุ่ม
มือและเท้าเป็นอวัยวะที่ต้องใช้งานทุกวันและแทบจะตลอดเวลา ลองจินตนาการดูเล่นๆ ว่า เราต้องใช้มือทำงาน หยิบสิ่งของ เปิดประตู ทำความสะอาดห้อง และออกกำลังกาย ส่วนเท้าก็ต้องเสียดสีกับรองเท้าหรือพื้นห้องตลอดเวลาที่เดิน ทำให้ผิวหนังบริเวณดังกล่าวแข็งกระด้างกว่าผิวกายที่ไม่ต้องทำงานเหล่านี้โดยตรง การบำรุงมือและเท้าจึงเหมือนเป็นการกดปุ่มรีเซ็ตให้ผิวกลับมาเนียนนุ่มอีกครั้ง
ผลัดเซลล์ผิวเก่า
ในขั้นตอนการทำสปาจะมีการสครับผิวชั้นหนังกำพร้า ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกอย่างอ่อนโยน เผยผิวที่อ่อนนุ่มและกระจ่างใสขึ้น ทั้งยังช่วยปรับสมดุลการไหลเวียนเลือดอีกด้วย
บอกลาเล็บเหลืองและอ่อนแอ
ใครที่ทำสีเล็บบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นเล็บเจลหรือน้ำยาทาเล็บแบบธรรมดา อาจสังเกตว่า เวลาล้างเล็บแล้ว หน้าเล็บจะมีสีออกเหลืองๆ และเล็บบาง ฉีกขาดง่าย นั่นก็เป็นเพราะว่าคุณไม่เคยปล่อยให้เล็บได้พักบ้างนั่นเอง การทำสปาจะช่วยให้คุณได้พักเล็บมือและเล็บเท้า ทั้งยังช่วยให้สารบำรุงผิวต่างๆ ที่ใช้สามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวและเล็บได้ดีขึ้น เมื่อเล็บแข็งแรงแล้ว จะช่วยให้ทำสีเล็บในครั้งต่อไปได้สวยยิ่งขึ้น
กำจัดสิ่งสกปรกและกลิ่นอับ
การทำสปามือและเท้านั้นจะได้มีโอกาสทำความสะอาดซอกเล็บในส่วนที่เราอาจจะมองไม่เห็น จึงช่วยลดกลิ่นอับและการสะสมของเชื้อโรค โดยเฉพาะที่เล็บเท้าซึ่งยากต่อการทำความสะอาดเอง
ใครควรทำสปามือและสปาเท้า
-
คนที่ทำเล็บเป็นประจำ ควรหาเวลาพัก งดทาเล็บ แล้วหาเวลามาทำสปาเพื่อบำรุงเล็บให้แข็งแรงบ้าง
-
คนที่ใช้ความสวยงามของมือหรือเท้าเป็นส่วนหนึ่งของงาน เช่น งานถ่ายแบบเครื่องประดับหรือรองเท้า
-
คนที่ประกอบอาชีพหรือมีไลฟ์สไตล์ที่อาจทำให้ผิวมือและเท้าแห้งกร้าน เช่น ทำอาหาร ช่างทำผม ออกกำลังกาย เล่นกีฬาเอ็กซ์ตรีม
-
ทุกคนที่ต้องการปรนนิบัติผิวเฉพาะส่วนและเพิ่มความมั่นใจให้กับตนเอง
แอบดู 7 ขั้นตอนการทำสปามือเท้ากับช่างมืออาชีพ
หากใครอยากบำรุงผิวมือและเท้าให้นุ่มนวลน่าสัมผัส ลองแวะเข้าไปที่ร้านเสริมสวยหรือร้านทำเล็บดีๆ สักร้านเพื่อดูแลตัวเองให้เป๊ะจรดปลายเล็บ โดยบริการที่คุณจะได้รับ มีดังนี้
-
เริ่มจากการล้างสีเล็บด้วยน้ำยาล้างเล็บคุณภาพดี โดยเฉพาะคนที่ทำเล็บเจล ช่างมืออาชีพจะล้างสีเจลออกด้วยความชำนาญ เพื่อปกป้องผิวเล็บอันบอบบาง
-
เตรียมผิวและเล็บด้วยการแช่มือหรือเท้าในน้ำอุ่นผสมสบู่เหลวประมาณ 5 นาที เพื่อทำความสะอาดและช่วยให้ผิวหนังและเล็บอ่อนนุ่ม พร้อมสำหรับการทำสปามือและเท้า
-
หลังจากนั้น ช่างจะบริการตัดเล็บให้สั้นพอเหมาะ ตะไบเล็บเพื่อลบเหลี่ยมคม พร้อมใช้กรรไกรเล็มหนังกำพร้าบริเวณจมูกเล็บออกอย่างระมัดระวัง
-
เริ่มต้นขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกจากมือหรือเท้าด้วยการแช่มือหรือเท้าลงในน้ำอุ่นผสมออยล์บำรุงผิว
-
จากนั้น ช่างจะบริการสครับผิวอย่างเบามือด้วยผลิตภัณฑ์ขัดผิวคุณภาพดีที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น น้ำตาลทราย และน้ำมันหรือมอยซ์เจอร์ไรเซอร์จากธรรมชาติ
-
หลังจากล้างทำความสะอาดอีกครั้งแล้ว ช่างจะค่อยๆ ทาครีมบำรุงที่มีความเข้มข้น พร้อมค่อยๆ นวดให้เนื้อครีมซึมซาบลงสู่ผิว พร้อมทาน้ำมันบำรุงที่เล็บและจมูกเล็บเพื่อเพิ่มความแข็งแรง
-
เมื่อเสร็จแล้ว สามารถเลือกให้ช่างทาเบสโค้ทที่เล็บเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและพักจากการทำสีเล็บได้
ทริคเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงมือเท้าที่ร้านเสริมสวยแนะนำ
หากใครยังไม่มีเวลาไปเข้าร้านทำสปามือเท้าใกล้บ้าน สามารถใช้วิธีทำสปามือเท้าที่บ้านด้วยอุปกรณ์ที่มีอยู่แล้วได้ โดยปรับจากขั้นตอนของทางร้านเสริมสวย แต่อย่าลืมเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมด้วย โดย 3 สิ่งที่ขาดไม่ได้เลย มีดังนี้
-
Hand and Foot Cream ครีมบำรุงเฉพาะจุดสำหรับมือและเท้า ซึ่งจะมีความเข้มข้นสูงกว่าครีมบำรุงผิวกาย โดยช่างทำเล็บที่เชี่ยวชาญการบำรุงผิวมือและเท้าให้ลูกค้าแนะนำว่า ควรเลือกเนื้อครีมให้เหมาะกับสภาพผิวและมีเนื้อสัมผัสเหมาะกับช่วงเวลาที่ใช้ เช่น หากใช้ทาก่อนนอนหรือใช้ในหน้าหนาวที่อากาศแห้งสามารถเลือกเนื้อหนักๆ เพื่อล็อกความชุ่มชื้นได้เลย แต่หากใช้ในชีวิตประจำวันควรเลือกเนื้อโลชั่นที่บางเบาเพื่อไม่ให้เหนียวเหนอะหนะ
-
Cuticle Oil เป็นน้ำมันบำรุงเล็บหลอดเล็กๆ พร้อมหัวแอปพลิเคเตอร์เรียวที่สะดวกในการใช้งาน ไอเท็มนี้จำเป็นมากสำหรับคนทำเล็บและผู้ที่ต้องการบำรุงเล็บเป็นพิเศษ เพราะมีน้ำมันบำรุง เช่น Jojoba Oil, Flaxseed Oil และ Safflower Oil ช่วยให้เล็บและผิวบริเวณรอบๆ แข็งแรง ไม่เปราะหักหรือฉีกง่าย
-
Exfoliator ผลิตภัณฑ์ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว มีให้เลือกทั้งแบบ Physical ซึ่งก็คือเม็ดสครับและอุปกรณ์ขัดผิวทั่วไป และแบบ Chemical ซึ่งเป็นการใช้สารเคมีผลัดเซลล์ผิว เช่น สบู่หรือครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของ AHA และ BHA สามารถเลือกใช้ตามความถนัดหรือใช้ควบคู่กันได้เลย แต่ต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดความระคายเคือง
เมื่อปรนนิบัติมือและเท้าจนมีสุขภาพดี ได้พักเล็บจนแข็งแรงแล้ว ก็ถึงเวลากลับมาแต่งแต้มสีสันตามใจปรารถนา สามารถแวะมาดูแลเล็บเพื่อเสริมเสน่ห์ให้กับตัวเอง
- Gina Nails ศูนย์การค้า Paradise Park ชั้น 3 ทั้งสองร้านเปิดบริการตั้งแต่ 10:20-21:00 ในวันจันทร์-ศุกร์ และ 10:00-21:00 ในวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
-
Cafe' De Nail ศูนย์การค้า Paradise Park ชั้น 3 ร้านทำเล็บมืออาชีพที่ดูแลครบวงจรตั้งแต่การทำสปาไปจนถึงการตกแต่งเล็บโดยช่างมากประสบการณ์
-
Us Nail ศูนย์การค้า Paradise Park ชั้น 3 ร้านทำเล็บมืออาชีพ สามารถใช้ MBK PLUS ได้นะ!
กดรับสิทธิ์ง่าย ๆ ผ่าน LINE Official Account : MBK PLUS ใครยังไม่เป็นสมาชิก MBK PLUS แอดด่วน!! @mbkplus
สุขจุกๆ รวมทุกรูปแบบความสุข รับสุขจุกๆ ได้ง่ายขึ้นแล้วที่ LINE Official Account : MBK PLUS คะแนน MBK POINTS จากแอปพลิเคชัน MBK PLUS จะถูกโอนไปยังระบบ LINE Official Account
MBK POINTS ทุก 1 คะแนน = 1 พอยท์ *
*คะแนนจากระบบเดิมจะถูกนำมาคำนวณเป็น Rate ใหม่ (นำมาหาร 8 เศษที่เหลือจะปรับขึ้น) เช่น เดิมสมาชิกมี 804 คะแนน มูลค่า 100.5 บาท (804x0.125) เพราะ 1 คะแนน = 0.125 บ. เมื่อย้ายมาบนระบบใหม่ คะแนนที่ถูกโอนมาจะเท่ากับ 101 คะแนน มีมูลค่า 101 บาท เพราะ 1 คะแนนบนระบบใหม่ = 1 บาท
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ MBK PLUS