การแต่งตัวผู้ชายไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของความดูดีเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมภาพลักษณ์ บุคลิก และความมั่นใจ รวมถึงช่วยพัฒนาสกิลการเลือก เสื้อผ้าผู้ชาย ให้เหมาะสมกับโอกาสต่าง ๆ อีกด้วย
ความสำคัญของการแต่งตัวผู้ชาย
เสริมบุคลิกและภาพลักษณ์ให้ดูดี
การแต่งตัวที่เหมาะสมกับรูปร่างช่วยเสริมบุคลิกภาพให้ดูโดดเด่น เพิ่มเสน่ห์และความประทับใจแรกพบในทุกสถานการณ์
เสริมความมั่นใจในตัวเอง
เมื่อคุณใส่เสื้อผ้าที่เหมาะกับตัวเอง ความมั่นใจก็จะเพิ่มขึ้น ไม่ว่าคุณจะออกไปเจอลูกค้า หรือแค่เดินเล่นในวันหยุด
เพิ่มความสามารถในการเลือกเครื่องแต่งกาย
การเข้าใจในสไตล์แฟชั่นของตัวเองช่วยให้คุณเลือกซื้อเสื้อผ้าได้อย่างชาญฉลาด ทั้งในเรื่องของการแมทช์สีและการเลือกเครื่องประดับที่ลงตัว
ทริคแฟชั่นผู้ชายที่ไม่ควรพลาด
- เสื้อ: เลือกเสื้อที่มีเนื้อผ้าสวมใส่สบายและเหมาะสมกับอากาศ เช่น เสื้อเชิ้ตคอตั้งสำหรับลุค Smart Casual หรือเสื้อยืด Oversized ที่เข้ากับวันสบาย ๆ
- กางเกง: เน้นกางเกงที่เข้ากับทรงร่าง เช่น กางเกงทรงกระบอกเล็กสำหรับหุ่น Triangle Body Type หรือกางเกงทรงตรงสำหรับ Inverted Triangle Body Type
- รองเท้า: เลือกรองเท้าที่เหมาะกับโอกาส เช่น รองเท้าหนังสำหรับวันทำงาน หรือรองเท้าผ้าใบลำลองที่ใส่เดินทางได้สบาย
- เครื่องประดับ: นาฬิกาข้อมือ หรือแว่นกันแดดที่เหมาะกับโครงหน้าเป็นตัวเลือกที่ช่วยเสริมความเท่ให้ลุคของคุณดูสมบูรณ์แบบ
- กระเป๋า: กระเป๋าหนังสะพายข้าง หรือกระเป๋าเป้สีโมโนโทน เป็นไอเทมที่เพิ่มความสมาร์ทได้ในทุกลุค
Mix & Match ลุคแฟชั่นผู้ชายหลากหลายสไตล์
มาดูกันว่า 5 สไตล์การแต่งตัวที่เป็นที่นิยมในปีใหม่นี้คืออะไร และสามารถปรับใช้ในโอกาสไหนได้บ้าง
1. สไตล์อปป้าเกาหลี
- เสื้อ: เสื้อเชิ้ตโอเวอร์ไซส์หรือเสื้อสเวตเตอร์บาง ๆ
- กางเกง: กางเกงทรงหลวมเอวสูง
- เครื่องประดับ: หมวกเบสบอล กระเป๋าผ้า หรือสนีกเกอร์สีขาว
- โอกาส: ใส่เดินเที่ยวคาเฟ่หรือวันพักผ่อน
2. สไตล์สตรีทมินิมอล
- เสื้อ: เสื้อยืดหรือเสื้อเชิ้ตสีพื้น
- กางเกง: กางเกงชิโนหรือยีนส์ทรงสลิม
- เครื่องประดับ: นาฬิกาและรองเท้าหนัง
- โอกาส: ใส่ทำงานหรือออกเดท
3. สไตล์ย้อนยุคเท่ ๆ
- เสื้อ: เสื้อเชิ้ตลายดอกไม้หรือแจ็คเก็ตยีนส์
- กางเกง: กางเกงขาบานหรือขาสั้น
- เครื่องประดับ: แว่นกันแดดสไตล์วินเทจ
- โอกาส: ใส่ไปปาร์ตี้หรืองานสังสรรค์
4. สไตล์ Smart Casual
- เสื้อ: เสื้อโปโลหรือเสื้อเชิ้ตพับแขน
- กางเกง: กางเกงผ้าชิโนหรือสแล็ค
- เครื่องประดับ: เข็มขัดหนังและรองเท้า Loafers
- โอกาส: ใส่ในงานประชุม หรืองานที่เป็นทางการเล็กน้อย
5. สไตล์ Oversized
- เสื้อ: เสื้อฮู้ดหรือเสื้อยืดขนาดใหญ่
- กางเกง: กางเกงวอร์มหรือยีนส์ทรงหลวม
- เครื่องประดับ: กระเป๋า Crossbody และรองเท้าสนีกเกอร์
- โอกาส: ใส่ในวันพักผ่อนหรือเดินเล่น
รูปร่างคือคีย์สำคัญที่พลาดไม่ได้
ผู้ชายแต่ละคนมีรูปร่างแตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกเสื้อผ้าที่เหมาะสมจึงเป็นเรื่องสำคัญ
1. หุ่นทรงสามเหลี่ยม (Triangle Body Type): เสื้อปกเชิ้ตเข้ารูป หรือแจ็คเก็ตที่มีฟองน้ำเสริมไหล่ช่วยเพิ่มสมดุลให้กับร่างกาย
2. หุ่นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า (Rectangle Body Type): เสื้อสูทหรือแจ็คเก็ตที่ช่วยเสริมไหล่ และเสื้อคอกลมช่วยเพิ่มมิติของร่างกาย
3. หุ่นทรงสามเหลี่ยมหัวกลับ (Inverted Triangle Body Type): เสื้อคอวี และกางเกงทรงตรงหรือทรงสลิมแบบหลวม ๆ จะช่วยลดความแตกต่างระหว่างช่วงบนและล่าง
4. หุ่นทรงวงรี (Oval Body Type): เสื้อสีเข้มและกางเกงทรงตรงจะช่วยพรางจุดบกพร่องและเพิ่มความสมดุล
5. หุ่นทรงสี่เหลี่ยมคางหมู (Trapezoid Body Type): สามารถเลือกใส่เสื้อผ้าทุกแบบได้อย่างอิสระ
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 5 ลุคแฟชั่นผู้ชายหลากหลายสไตล์ที่เรานำมาฝากในบทความนี้ ส่องดูแล้วชอบลุคไหน มาตามช้อปไอเทมต่าง ๆ ตั้งแต่เสื้อ กางเกง เครื่องประดับ ได้เลยที่ Paradise Park
กดรับสิทธิ์ง่าย ๆ ผ่าน LINE Official Account : MBK PLUS ใครยังไม่เป็นสมาชิก MBK PLUS แอดด่วน!! @mbkplus
สุขจุกๆ รวมทุกรูปแบบความสุข รับสุขจุกๆ ได้ง่ายขึ้นแล้วที่ LINE Official Account : MBK PLUS คะแนน MBK POINTS จากแอปพลิเคชัน MBK PLUS จะถูกโอนไปยังระบบ LINE Official Account
MBK POINTS ทุก 1 คะแนน = 1 พอยท์ *
*คะแนนจากระบบเดิมจะถูกนำมาคำนวณเป็น Rate ใหม่ (นำมาหาร 8 เศษที่เหลือจะปรับขึ้น) เช่น เดิมสมาชิกมี 804 คะแนน มูลค่า 100.5 บาท (804x0.125) เพราะ 1 คะแนน = 0.125 บ. เมื่อย้ายมาบนระบบใหม่ คะแนนที่ถูกโอนมาจะเท่ากับ 101 คะแนน มีมูลค่า 101 บาท เพราะ 1 คะแนนบนระบบใหม่ = 1 บาท
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ MBK PLUS