โรคหลอดเลือดสมองไม่ใช่เรื่องไกลตัว มาทำความรู้จัก ดูแลและป้องกันอย่างถูกวิธี

  •  25 ก.พ. 68

โรคหลอดเลือดสมองไม่ใช่เรื่องไกลตัว มาทำความรู้จัก ดูแลและป้องกันอย่างถูกวิธี 

โรคหลอดเลือดสมองในผู้สูงอายุ (Stroke) เป็นภาวะที่อันตรายถึงชีวิต เกิดจากการที่หลอดเลือดที่นำเลือดไปเลี้ยงสมองเกิดการอุดตันหรือแตก ทำให้สมองขาดเลือดไปเลี้ยงและเซลล์สมองถูกทำลาย ถึงแม้โรคหลอดเลือดสมองในผู้สูงอายุเป็นภาวะที่ร้ายแรง แต่สามารถป้องกันและรักษาได้ หากสังเกตอาการผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพื่อให้ได้รับการรักษาที่ถูกต้องและทันท่วงที

 

หลอดเลือดในสมอง คืออะไร? 

หลอดเลือดในสมองเป็นทางลำเลี้ยงหลักที่นำพาออกซิเจนและสารอาหารไปเลี้ยงเซลล์สมอง หากหลอดเลือด้เกิดการอุดตัน ตีบ หรือแตก ก็จะส่งผลให้สมองขาดเลือดและเกิดความเสียหายได้ ซึ่งอาจนำไปสู่อัมพฤกษ์ อัมพาต หรือเสียชีวิตได้ จึงต้องรักษา 

 

ทำไมหลอดเลือดในสมองจึงสำคัญ? 

สมองเป็นอวัยวะที่ควบคุมการทำงานของร่างกายทุกส่วน หากสมองได้รับความเสียหายจากปัญหาหลอดเลือด ก็จะส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหว ความคิด ความจำ และการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมากโดยเฉพาะสมองส่วนหน้าหรือ (Frontal lobe) 

สมองส่วนหน้า (Frontal lobe) เป็นส่วนสำคัญของสมองที่ควบคุมการทำงานหลายอย่าง เช่น การคิด การตัดสินใจ การวางแผน การควบคุมอารมณ์ พฤติกรรม และการเคลื่อนไหว ดังนั้น เมื่อเกิดโรคหลอดเลือดในสมองที่ส่งผลกระทบต่อสมองส่วนหน้า ก็จะส่งผลต่อการทำงานตามไปด้วย 

 

ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับสมองส่วนหน้า 

  • การเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรม: ผู้ป่วยอาจมีอารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย ซึมเศร้า ขาดความยับยั้งชั่งใจ หรือมีพฤติกรรมก้าวร้าว 
  • ปัญหาในการคิดและตัดสินใจ: อาจมีปัญหาในการวางแผน การแก้ปัญหา การตัดสินใจ หรือการจดจำข้อมูลใหม่ๆ 
  • ความผิดปกติทางภาษา: อาจมีปัญหาในการพูด การเขียน หรือการเข้าใจภาษา 
  • การเปลี่ยนแปลงบุคลิกภาพ: อาจมีการเปลี่ยนแปลงในด้านบุคลิกภาพ เช่น กลายเป็นคนขี้ลืม ขาดความสนใจ หรือขาดความเอาใจใส่ 
  • ปัญหาในการควบคุมการเคลื่อนไหว: หากสมองส่วนหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนไหวได้รับความเสียหาย อาจทำให้เกิดปัญหาในการเคลื่อนไหว เช่น ช้าลง หรือเคลื่อนไหวไม่ค่อยคล่อง 

 

ปัญหาหลอดเลือดในสมอง ทำให้เซลล์สมองตาย ซึ่งอาจนำไปสู่อัมพฤกษ์ อัมพาต หรือเสียชีวิตได้ การรับรู้ถึงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ จะช่วยให้เราสามารถป้องกันและดูแลสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

 

ปัจจัยเสี่ยงที่ควบคุมได้ 

  • ความดันโลหิตสูง: เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่สุด การควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติจะช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างมาก 
  • โรคเบาหวาน: ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงขึ้นเรื้อรังจะทำลายหลอดเลือดและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง 
  • ไขมันในเลือดสูง: ไขมันชนิด LDL ที่สูงจะไปเกาะผนังหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดตีบ 
  • การสูบบุหรี่: สารนิโคตินในบุหรี่จะทำให้หลอดเลือดตีบและแข็งตัว 
  • โรคหัวใจ: โรคหัวใจบางชนิด เช่น ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดอุดตันในสมอง 
  • การขาดการออกกำลังกาย: การออกกำลังกายสม่ำเสมอจะช่วยควบคุมน้ำหนัก ลดความดันโลหิต และลดระดับไขมันในเลือด 
  • ภาวะอ้วน: น้ำหนักตัวที่มากเกินไปจะเพิ่มภาระให้กับหัวใจและหลอดเลือด 
  • ความเครียด: ความเครียดเรื้อรังอาจเพิ่มความดันโลหิตและความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง 

 

ปัจจัยเสี่ยงที่ควบคุมได้ยาก 

  • อายุ: ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นตามอายุ 
  • เพศ: ผู้ชายมีความเสี่ยงสูงกว่าผู้หญิง 
  • ประวัติครอบครัว: หากมีคนในครอบครัวเป็นโรคหลอดเลือดสมอง ความเสี่ยงของคุณจะสูงขึ้น 

 

ปัจจัยที่ส่งผลต่อความรุนแรง 

  • ตำแหน่งของหลอดเลือดที่อุดตันหรือแตก: หากหลอดเลือดที่อุดตันหรือแตกอยู่ในตำแหน่งที่สำคัญของสมองส่วนหน้า ก็จะส่งผลกระทบต่อการทำงานของสมองส่วนนั้นมากขึ้น 
  • ขนาดของบริเวณที่สมองได้รับความเสียหาย: บริเวณที่สมองได้รับความเสียหายยิ่งมาก ผลกระทบก็จะยิ่งรุนแรงมากขึ้น 
  • ความรวดเร็วในการรักษา: การรักษาที่รวดเร็วจะช่วยลดความเสียหายของเซลล์สมองและช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้ดีขึ้น 

การป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง 

  • ควบคุมปัจจัยเสี่ยง: ดูแลสุขภาพให้ดี ควบคุมความดันโลหิต น้ำตาลในเลือด และไขมันในเลือด 
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ 
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์: เน้นผัก ผลไม้ ธัญพืช และโปรตีนจากปลา 
  • เลิกบุหรี่: หากสูบบุหรี่ ควรเลิกโดยเร็วที่สุด 
  • ลดการดื่มแอลกอฮอล์: หรือเลิกดื่ม 
  • ตรวจสุขภาพเป็นประจำ: เพื่อค้นหาและรักษาโรคต่างๆ ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น 

 

*หากคุณมีอาการดังต่อไปนี้ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที 

  • อ่อนแรงหรือชาที่ใบหน้า แขน หรือขา 
  • พูดลำบากหรือพูดไม่ชัด 
  • มองเห็นภาพซ้อนหรือพร่ามัว 
  • เวียนหัวหรือทรงตัวไม่ดี 
  • ปวดศีรษะรุนแรงอย่างฉับพลัน 

 

ชีวิตหลังโรคหลอดเลือดสมองกลับมาแข็งแรงได้อย่างไร 

การฟื้นตัวจากโรคหลอดเลือดในสมองที่ส่งผลกระทบต่อสมองส่วนหน้านั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อายุ สุขภาพโดยรวม ขนาดของบริเวณที่สมองได้รับความเสียหาย และการรักษาที่ได้รับ ผู้ป่วยบางรายอาจฟื้นตัวได้ดีและกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่บางรายอาจต้องอาศัยการดูแลระยะยาว 

 

โรคหลอดเลือดในสมอง ทาง คลินิกกายภาพบำบัด Rehabz By Chersery Home สามารถทำกายภาพบำบัดเพื่อบรรเทาอาการ โดยสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้โดย Chersery Home


สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในย่านศรีนครินทร์ และพื้นที่ใกล้เคียง "คลินิกพรีเมียม รามาธิบดี เฮลธ์ สเปซ @พาราไดซ์ พาร์ค" (Ramathibodi Health Space) ที่ตั้งอยู่ภายในศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค ชั้น 3 เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สะดวกสบาย ในการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดหมายแพทย์ ได้ที่ รามาธิบดี เฮลธ์ สเปซ ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค เปิดให้บริการทุกวัน 8.00-20.00 น. 

โทร. 0-2201-0640-45 

Line Official Account : @ramaparadise

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ คลินิกพรีเมียม รามาธิบดี เฮลธ์ สเปซ @พาราไดซ์ พาร์ค คลิกที่นี่

คลีนิกพรีเมี่ยมรามาธิบดี เฮลธ์ สเปซ

รามาธิบดี เฮลธ์ สเปซ (ด้านหน้า)

หมายเหตุ: บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลความรู้ ไม่สามารถใช้แทนคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ หากมีข้อสงสัย หรือต้องการคำแนะนำในการรักษา ควรปรึกษาแพทย์