ลมพิษ (Hives) ปี 2568 โรคที่ระคายเคืองผิวหนัง ปัจจัยกระตุ้นโรคลมพิษ

  •  27 พ.ค. 68

ลมพิษ (Hives) ปี 2568 โรคที่ระคายเคืองผิวหนัง ปัจจัยกระตุ้นโรคลมพิษ

โรคลมพิษ (Urticaria) เป็นภาวะที่ผิวหนังเกิดผื่นนูนแดงหรือขาว มักมีอาการคันร่วมด้วย ผื่นสามารถขึ้นได้ทุกส่วนของร่างกาย และมักเกิดขึ้นแบบเฉียบพลันหรือเรื้อรัง ซึ่งสามารถรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก หากไม่รู้จักดูแลหรือป้องกันอย่างถูกวิธี

สาเหตุของโรคลมพิษ

โรคลมพิษเกิดจากการที่ร่างกาย ปล่อยสารฮีสตามีน (Histamine) และสารเคมีอื่น ๆ ออกจากเซลล์แมสต์ (mast cells) ซึ่งส่งผลให้หลอดเลือดขยายตัว ของเหลวซึมออกจากเส้นเลือดเข้าสู่ผิวหนัง จึงเกิดเป็นผื่นนูนแดง คัน และบวม

โดยสามารถแบ่งสาเหตุออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ดังนี้

1. สารกระตุ้นจากภายนอก (External Triggers)

อาหาร (Food)

  • อาหารทะเล (เช่น กุ้ง ปู หอย)
  • ถั่วลิสง, ถั่วเปลือกแข็ง (almond, walnut)
  • ไข่ นมวัว
  • ช็อกโกแลต สารแต่งสี กลิ่น หรือวัตถุกันเสีย

ยา (Medications)

  • ยาปฏิชีวนะ (เช่น penicillin, sulfa drugs)
  • ยาแก้อักเสบกลุ่ม NSAIDs (เช่น ibuprofen, aspirin)
  • ยารักษาความดันโลหิต
  • ยาระงับประสาทหรือยานอนหลับบางชนิด

สารเคมี (Chemicals)

  • น้ำหอม
  • ผลิตภัณฑ์ซักล้าง เช่น ผงซักฟอก สบู่ แชมพู
  • โลชั่นหรือเครื่องสำอางที่มีสารก่อภูมิแพ้

 

2. ปัจจัยทางกายภาพ (Physical Triggers)

ความร้อน/ความเย็นจัด

  • การสัมผัสกับอากาศเย็น (cold urticaria)
  • การอาบน้ำร้อน หรืออบซาวน่า (heat urticaria)

แรงกดทับหรือขีดข่วน

  • การสวมเสื้อผ้าคับแน่น
  • การสะพายกระเป๋าหนัก
  • การขีดเขียนบนผิว (dermographism)

แสงแดด (Solar urticaria)

  • ผื่นลมพิษที่เกิดขึ้นทันทีหลังจากโดนแสงแดด

การออกแรงหรือเหงื่อออกมาก

  • เช่น การออกกำลังกายหนัก ๆ (exercise-induced urticaria)
  • การอาบน้ำหรือโดนฝน

 

3. ปัจจัยจากภายในร่างกาย (Internal/Immune-related Causes)

การติดเชื้อ

  • ไวรัส: ไข้หวัด, ไวรัสตับอักเสบ
  • แบคทีเรีย: การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ, ฟันผุ, ต่อมทอนซิลอักเสบ
  • พยาธิ: ลำไส้หรือระบบย่อยอาหาร

ความเครียดหรือภาวะอารมณ์

  • ฮอร์โมนและระบบภูมิคุ้มกันอาจถูกรบกวน ทำให้กระตุ้นลมพิษได้
  • มักพบในผู้ที่มีความวิตกกังวลสูงหรือมีภาวะซึมเศร้า

โรคเกี่ยวกับภูมิคุ้มกัน (Autoimmune)

  • เช่น โรคไทรอยด์, SLE, หรือโรคแพ้ภูมิตัวเองอื่น ๆ
  • ในบางกรณีลมพิษอาจเกิดโดยไม่มีสารกระตุ้นจากภายนอก แต่เกิดจากภูมิคุ้มกันที่ทำงานผิดปกติ

การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน

  • พบในหญิงตั้งครรภ์ หรือระหว่างรอบเดือน

ลมพิษ (Hives) ปี 2568 โรคที่ระคายเคืองผิวหนัง ปัจจัยกระตุ้นโรคลมพิษ

บรรเทาอากาศด้วยการประคบเย็น

การ ประคบเย็นบริเวณที่เป็นลมพิษ สามารถช่วยบรรเทาอาการได้จริงในหลายกรณี โดยเฉพาะเมื่อมี อาการคัน บวม หรือแสบร้อน ร่วมด้วย

ลดอาการคันและบวมชั่วคราว ความเย็นจะช่วยทำให้หลอดเลือดหดตัว ลดการไหลของเลือดและสารก่อการอักเสบไปยังผิวหนัง

  1. ลดอุณหภูมิของผิวที่อักเสบ
    โดยเฉพาะถ้าลมพิษเกิดจากความร้อนหรืออากาศร้อน

  2. ทำให้รู้สึกสบายขึ้น
    ลดความรู้สึกระคายเคืองหรือร้อนผ่าว

 

ข้อควรระวัง

  • หลีกเลี่ยงการประคบโดยตรงกับน้ำแข็งหรือเจลเย็นจัด โดยไม่ห่อผ้าหรือผ้าขนหนูบาง ๆ ก่อน เพื่อป้องกันผิวหนังถูกทำลายจากความเย็น (frostbite)
  • อย่าประคบนานเกิน 15–20 นาทีในแต่ละครั้ง

 

ตัวช่วยเสริมอื่น ๆ ที่ใช้คู่กับการประคบเย็น

  • ทาโลชั่นหรือครีมบำรุงผิวแบบเย็น เช่น คาลาไมน์โลชั่น (Calamine) หรือ เจลว่านหางจระเข้
  • ทายาแก้แพ้เฉพาะที่ตามคำแนะนำของแพทย์
  • รับประทานยาแก้แพ้ชนิดไม่ง่วง (เช่น Loratadine หรือ Cetirizine)

ลมพิษ (Hives) ปี 2568 โรคที่ระคายเคืองผิวหนัง ปัจจัยกระตุ้นโรคลมพิษ

วิธีการรักษาโรคลมพิษ

การรักษาลมพิษขึ้นอยู่กับ ความรุนแรงและระยะเวลา ของอาการ:

1. ยาต้านฮีสตามีน (Antihistamines)

  • ตัวอย่างยา เช่น loratadine, cetirizine, fexofenadine ช่วยลดอาการคัน บวม และผื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. ยาสเตียรอยด์

  • ใช้ในกรณีที่ลมพิษรุนแรงหรือดื้อต่อยาต้านฮีสตามีน *ควรใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น*

3. การรักษาสาเหตุที่แท้จริง

  • หากพบว่าเกิดจากอาหาร ยา หรือสิ่งกระตุ้นเฉพาะ ควรหลีกเลี่ยงทันที
  • สำหรับลมพิษเรื้อรัง ควรพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุอย่างละเอียด

**หมายเหตุ : สอบถามหมอแล้วเภสัชก่อนใช่ยาทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย

 

วิธีการป้องกันโรคลมพิษ

การป้องกันสำคัญไม่แพ้การรักษา โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่เป็นซ้ำหรือมีประวัติภูมิแพ้:

1. หลีกเลี่ยงสารกระตุ้นที่เคยแพ้

  • บันทึกสิ่งที่กินหรือใช้ก่อนมีอาการ เพื่อหาตัวกระตุ้น

2. ดูแลสุขภาพจิต

  • ลดความเครียดด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ
  • หลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่กดดันมากเกินไป

3. รักษาความสะอาดผิวหนังและเสื้อผ้า

  • ใช้น้ำยาซักผ้าที่อ่อนโยน
  • สวมใส่เสื้อผ้าหลวม ระบายอากาศได้ดี

4. ปรึกษาแพทย์เมื่อลมพิษเกิดซ้ำบ่อย

  • อาจมีโรคพื้นฐานอื่นร่วมด้วย เช่น โรคไทรอยด์หรือภูมิคุ้มกันผิดปกติ

ลมพิษ (Hives) ปี 2568 โรคที่ระคายเคืองผิวหนัง ปัจจัยกระตุ้นโรคลมพิษ

โรคลมพิษแม้จะไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่สามารถสร้างความรำคาญและรบกวนการใช้ชีวิตได้อย่างมาก การรู้เท่าทันสาเหตุ การดูแลรักษาอย่างเหมาะสม และการป้องกันที่มีประสิทธิภาพ จะช่วยให้คุณสามารถควบคุมโรคนี้ได้ดีและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

หากคุณหรือคนใกล้ตัวมีอาการลมพิษบ่อยครั้ง อย่าละเลย ควรพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง

 


สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในย่านศรีนครินทร์ และพื้นที่ใกล้เคียง "คลินิกพรีเมียม รามาธิบดี เฮลธ์ สเปซ @พาราไดซ์ พาร์ค" (Ramathibodi Health Space) ที่ตั้งอยู่ภายในศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค ชั้น 3 เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สะดวกสบาย ในการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดหมายแพทย์ ได้ที่ รามาธิบดี เฮลธ์ สเปซ ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค เปิดให้บริการทุกวัน 8.00-20.00 น. 

โทร. 0-2201-0640-45 

Line Official Account : @ramaparadise

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ คลินิกพรีเมียม รามาธิบดี เฮลธ์ สเปซ @พาราไดซ์ พาร์ค คลิกที่นี่

คลีนิกพรีเมี่ยมรามาธิบดี เฮลธ์ สเปซ

รามาธิบดี เฮลธ์ สเปซ (ด้านหน้า)

หมายเหตุ: บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลความรู้ ไม่สามารถใช้แทนคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ หากมีข้อสงสัย หรือต้องการคำแนะนำในการรักษา ควรปรึกษาแพทย์